dc.contributor.advisor |
ธิติพันธุ์ เชื้อบุญชัย |
|
dc.contributor.author |
ดวงฤทัย ด่านสวัสดิ์วงศ์ |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2018-12-03T04:05:01Z |
|
dc.date.available |
2018-12-03T04:05:01Z |
|
dc.date.issued |
2560 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61031 |
|
dc.description |
เอกัตศึกษา(ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2560 |
en_US |
dc.description.abstract |
กระบวนการหลีกเลี่ยงภาษีขององค์กรต่างๆ ในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ซึ่ง
หนึ่งในรูปแบบนั้นก็คือการใช้ผลขาดทุนทางภาษีที่สะสมมาไม่เกิน 5 ปีก่อนรอบระยะเวลาบัญชี
ปัจจุบันตามมาตรา 65 ตรี (12) แห่งประมวลรัษฎากรที่สามารถนำผลขาดทุนทางภาษีมาหักเป็น
รายจ่ายทางภาษีได้ โดยกฎหมายยังมีช่องว่างที่เปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ ใช้เป็นเครื่องมือในการใช้
สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากผลขาดทุนดังกล่าว ซึ่งวิธีนี้ทำให้องค์กรที่มีผลขาดทุนทางภาษีที่สะสมมา
เป็นจำนวนมากมุ่งหาโอกาสในการสร้างรายได้ทางภาษีที่เป็นจริงหรือไม่จริงก็ตามเพื่อนำมาหักกับผล
ขาดทุนทางภาษีที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการประหยัดภาษีหรือเรียกว่าเป็นการหลีกภาษีที่ยอมรับได้
(Acceptable Tax Avoidance) ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
และการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ OECD)
เกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงภาษีที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีพยายามที่จะหาข้อได้เปรียบทางภาษีจากข้อกำหนด
ด้านเวลาสำหรับผลขาดทุนดังกล่าว ซึ่งหากไม่ได้ใช้ประโยชน์จากผลขาดทุนทางภาษีแล้วจะสูญเสีย
ประโยชน์ไป
จากกรณีศึกษาที่ผู้เขียนได้ยกตัวอย่างมาศึกษาในเอกัตศึกษานี้ บริษัทจำกัดแห่งหนึ่งได้มีผล
ขาดทุนทางภาษีที่สะสมยกมาไม่เกิน 5 ปีก่อนรอบระยะเวลาบัญชีปีปัจจุบันอยู่จำนวนมาก และได้มี
การสร้างรายได้จากการได้รับการยกหนี้จากกิจการที่เกี่ยวข้องกันเพื่อนำมาใช้หักกับผลขาดทุนทาง
ภาษีที่มีโดยนำมาเป็นรายจ่ายทางภาษี ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการประหยัด
ภาษีและทำให้บริษัทมีสภาพคล่องที่ดีขึ้นในระดับกลุ่มบริษัท จากการศึกษาผู้เขียนจึงเสนอแนะว่า
บทบัญญัติของประมวลรัษฎากรตามมาตรา 65 ตรี (12) จำเป็นต้องแก้ไขเพื่อให้มีมาตรการป้องกัน
การหลีกเลี่ยงภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการใช้ผลขาดทุนทางภาษีโดยกำหนดให้มีการกฎเกณฑ์ในการ
ใช้ที่รัดกุมมากขึ้น และควรให้มีมาตรการอื่นๆ ที่กำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลและรายงานเกี่ยวกับผล
ขาดทุนทางภาษี เพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้มีหน้าที่เสียภาษีในการหลีกเลี่ยงภาษี
ดังกล่าวซึ่งสอดคล้องกับมาตรการป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีจากการใช้ผลขาดทุนทางภาษีตามแนว
ปฏิบัติของ OECD ซึ่งอาจนำกฎเกณฑ์ของประเทศอังกฤษที่คำนึงถึงระยะเวลาทางภาษีซึ่งเป็นหลัก
มาตรการป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีตามเป้าหมาย (Targeted anti-avoidance rule หรือ TAAR)
โดยถูกออกแบบมาเพื่อการดำเนินการป้องกันพฤติกรรมบางประเภทที่พยายามใช้ประโยชน์จากกฎ
ต่างๆ มาเป็นต้นแบบในการนำมาปรับใช้ได้ นอกจากนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะการดำเนิน
ธุรกิจในปัจจุบันที่มีการพัฒนามากและเพื่อให้เป็นไปตามหลักการบริหารภาษีที่ดีที่จะต้องมีความ
ยืดหยุ่น โดยให้มีการปรับตัวเข้ากับสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน |
en_US |
dc.language.iso |
th |
en_US |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.relation.uri |
http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2017.8 |
|
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.subject |
ขาดทุน |
en_US |
dc.subject |
สิทธิประโยชน์ทางภาษี |
en_US |
dc.title |
มาตรการป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการใช้ผลขาดทุนทางภาษี |
en_US |
dc.type |
Independent Study |
en_US |
dc.degree.name |
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
en_US |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
en_US |
dc.degree.discipline |
กฎหมายเศรษฐกิจ |
en_US |
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.email.author |
ไม่มีข้อมูล |
|
dc.subject.keyword |
การหลีกเลี่ยงภาษี |
en_US |
dc.subject.keyword |
การขาดทุนทางภาษี |
en_US |
dc.identifier.DOI |
10.58837/CHULA.IS.2017.8 |
|