dc.contributor.advisor |
กาญจนา นิมมานเหมินท์ |
|
dc.contributor.author |
พรรณี เจริญสมบัติอมร |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2018-12-17T02:41:01Z |
|
dc.date.available |
2018-12-17T02:41:01Z |
|
dc.date.issued |
2560 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61074 |
|
dc.description |
เอกัตศึกษา(ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2560 |
en_US |
dc.description.abstract |
เอกัตศึกษาเล่มนี้มุ่งเน้นศึกษาเกี่ยวกับหลักการจัดทำบัญชีตามเกณฑ์เงินสดของประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับกิจการขนาดเล็ก เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์หาแนวทางเพื่อใช้แทนเกณฑ์คงค้างทางบัญชีที่ประเทศไทยใช้อยู่ในขณะนี้
จากการศึกษาพบว่า ในปัจจุบันนี้เกณฑ์ในการจัดทำบัญชีเพื่อนำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะต้องใช้เกณฑ์คงค้าง แต่ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อเสียภาษีจะต้องใช้เกณฑ์สิทธิตามประมวลรัษฎากร ซึ่งทั้งสองเกณฑ์นี้มีความซับซ้อน มีข้อกำหนดเฉพาะเรื่องเป็นจำนวนมาก และบังคับใช้กับทั้งกิจการขนาดใหญ่และกิจการขนาดเล็ก ซึ่งได้แก่ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและอาจรวมถึงบริษัทจำกัดคนเดียวหมากมีการประกาศใช้กฎหมายในอนาคต อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและบริษัทจำกัดคนเดียวที่ผู้ประกอบการอาจไม่มีความรู้ความสามารถด้านการบัญชี และการต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมากขึ้นในการจัดหาผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี ซึ่งเป็นผลให้ผู้ประกอบการไม่เข้าจดทะเบียนในรูปแบบของนิติบุคคล เนื่องจากมีภาระค่าใช้จ่ายในการจัดหาผู้ทำและผู้สอบบัญชี อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกาจะพบว่าประเทศสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มทางเลือกให้แก่กิจการขนาดเล็กในการนำวิธีเกณฑ์เงินสดในการจัดทำบัญชีได้ซึ่งเป็นแนวทางที่ง่ายต่อการจัดทำ ลดอุปสรรคในด้านการศึกษาทำความเข้าใจเรื่องการบันทึกบัญชี ลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดหาผู้ทำและผู้สอบบัญชี ลดโอกาสที่เอกสารการบันทึกบัญชีจะสูญหายและโอกาสในการเกิดข้อพิพาทระหว่างผู้ประกอบการกับหน่วยงานของรัฐด้วยเหตุนี้การนำวิธีเกณฑ์เงินสดมาใช้ในการบันทึกบัญชีจึงมีความเหมาะสมที่จะนำมาปรับใช้กับประเทศไทยเพื่อลดอุปสรรคของผู้ประกอบการขนาดเล็กในการเข้าจดทะเบียนในรูปแบบของนิติบุคคลอันจะเป็นผลให้ผู้ประกอบการของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและบริษัทจำกัดคนเดียวได้เสียภาษีในอัตราที่ต่ำลง ทำให้ภาครัฐมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ประกอบการเพิ่มมากขึ้นและจัดเก็บภาษีได้เพิ่มมากขึ้นในท้ายที่สุด |
en_US |
dc.language.iso |
th |
en_US |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.relation.uri |
http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2017.21 |
|
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.subject |
บริษัท--การสอบบัญชี |
en_US |
dc.subject |
ผู้สอบบัญชี |
en_US |
dc.title |
การนำวิธีเกณฑ์เงินสดมาใช้ในการบันทึกบัญชีเพื่อคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและบริษัทจำกัดคนเดียว |
en_US |
dc.type |
Independent Study |
en_US |
dc.degree.name |
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
en_US |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
en_US |
dc.degree.discipline |
กฎหมายเศรษฐกิจ |
en_US |
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.email.advisor |
ไม่มีข้อมูล |
|
dc.subject.keyword |
การจัดทำบัญชี |
en_US |
dc.subject.keyword |
ธุรกิจการค้า |
en_US |
dc.identifier.DOI |
10.58837/CHULA.IS.2017.21 |
|