dc.contributor.advisor |
วิโรจน์ วาทินพงศ์พันธ์ |
|
dc.contributor.author |
ภิรญา ไชยจารุวุฒิ |
|
dc.date.accessioned |
2018-12-17T06:47:17Z |
|
dc.date.available |
2018-12-17T06:47:17Z |
|
dc.date.issued |
2560 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61078 |
|
dc.description |
เอกัตศึกษา(ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2560 |
en_US |
dc.description.abstract |
รูปแบบหนึ่งของการทำแผนการตลาดของผู้ประกอบธุรกิจ ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันในปัจจุบันก็คือ การทำโปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าผ่านบัตรสะสมคะแนน โดยส่วนใหญ่ ธุรกิจที่มีบัตรสะสมคะแนนจะเป็นธุรกิจที่ขายสินค้าหรือให้บริการที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป
เช่น ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน ธุรกิจกาแฟ ธุรกิจซุปเปอร์มาร์เก็ต ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจการบิน ธุรกิจ
โทรคมนาคม ธุรกิจห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ซึ่งในมุมมองของผู้ประกอบธุรกิจ มองว่าเมื่อผู้บริโภคมา
ซื้อสินค้าหรือใช้บริการภายใต้การทำโปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าผ่านบัตรสะสมคะแนน ผู้ประกอบ
ธุรกิจก็จะให้คะแนนสะสมตามสัญญาหรือข้อตกลง และผู้บริโภคก็สามารถนำคะแนนสะสมที่มีอยู่ใน
บัตรไปใช้แทนเงินสดในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ใช้เป็นส่วนลด หรือมาแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆในครั้งต่อไปได้ จึงทำให้เกิดการซื้อสินค้าหรือใช้บริการซ้ำของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามในมุมมองของผู้บริโภคก็มีความต้องการที่ได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าที่ถูกต้องและเพียงพอ รวมถึงการได้รับคะแนนสะสมที่ตรงตามสัญญาหรือข้อตกลง และผู้บริโภคสามารถนำคะแนนสะสมไปใช้แทนเงินสดในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ใช้เป็นส่วนลด หรือมาแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้จริงๆ
จากเหตุข้างต้นจึงเป็นที่มาของงานเอกัตศึกษา เรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคจากการบังคับใช้
การตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน เรื่อง โปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า โดยจะทำการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบัญชีเรื่องโปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า อันได้แก่ พระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 การตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 13 เรื่อง โปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า รวมถึงการตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ ฉบับที่ 13 เรื่อง โปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า เป็นต้น นอกจากนี้จะทำการศึกษาถึงสิทธิของผู้บริโภคในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2541 รวมถึงกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคเรื่องโปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าของต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศแคนาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศแอฟริกาใต้ เป็นต้น เพื่อให้ทราบว่าการตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 13 เรื่อง โปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้ากระทบต่อสิทธิของผู้บริโภคภายใต้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคหรือไม่ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อผู้ประกอบธุรกิจและผู้บริโภคจากการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคและการบัญชีเป็นอย่างไร |
en_US |
dc.language.iso |
th |
en_US |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.relation.uri |
http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2017.26 |
|
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.subject |
บัตรเงินสด |
en_US |
dc.subject |
การส่งเสริมการขาย |
en_US |
dc.title |
การคุ้มครองผู้บริโภคจากการบังคับใช้การตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน เรื่อง โปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า |
en_US |
dc.type |
Independent Study |
en_US |
dc.degree.name |
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
en_US |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
en_US |
dc.degree.discipline |
กฎหมายเศรษฐกิจ |
en_US |
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.email.advisor |
Wirote.W@Chula.ac.th |
|
dc.subject.keyword |
บัตรสะสมคะแนน |
en_US |
dc.subject.keyword |
กลยุทธ์การตลาด |
en_US |
dc.identifier.DOI |
10.58837/CHULA.IS.2017.26 |
|