DSpace Repository

ปัญหาความไม่เสมอภาคจากค่าปรับตามกฎหมายจราจรทางบกและตามกฎหมายภาษีอากรในการใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล

Show simple item record

dc.contributor.advisor วุฒิพงษ์ ศิริจันทรานนท์
dc.contributor.author โยถิกะ ศรีพงษ์พันธุ์กุล
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์
dc.date.accessioned 2018-12-17T06:47:31Z
dc.date.available 2018-12-17T06:47:31Z
dc.date.issued 2560
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61080
dc.description เอกัตศึกษา(ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2560 en_US
dc.description.abstract ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลโดยอาศัยฐานภาษีแตกต่างกันไป ได้แก่ ฐานกำไรสุทธิ ฐานรายได้ก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ฐานเงินได้ที่จ่ายจากหรือในประเทศไทยหรือฐานเงินได้พึงประเมิน ฐานการจำหน่ายกำไรออกไปต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่นั้นจะถูกจัดเก็บจากฐานกำไรสุทธิ เหตุที่ใช้กำไรสุทธิเป็นฐานภาษีในการจัดเก็บภาษีนั้น ก็เนื่องมาจาก ในหลักการทางบัญชีการเงินนั้น ในการวัดผลการดำเนินงานของกิจการนั้น โดยทั่วไปกิจการจะวัดผล ความสำเร็จในรูปของตัวเลขกำไร จากนั้นกิจการจะนำตัวเลขกำไรที่ได้ไปเปรียบเทียบกับตัวเลขอื่น ๆ เพื่อทำการวิเคราะห์ทางการเงินเพื่อประโยชน์ในการบริหารกิจการต่อไป ดังนั้นการประเมินผล การดำเนินงานซึ่งมักใช้กำไรหรือขาดทุนของกิจการเป็นตัววัด ซึ่งองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องโดยตรง ในการคำนวณหรือวัดกำไรขาดทุนสิทธินั้นคือ รายได้และค่าใช้จ่ายแต่ในทางภาษีนั้นกำหนดหลักเกณฑ์ในการคำนวณรายได้และรายจ่ายจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์สิทธิคือ ให้นำรายได้ที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีใดแม้จะยังมิได้รับในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นมารวมคำนวณเป็นรายได้ และให้นำรายจ่ายซึ่งเกี่ยวข้องกับรายได้ดังกล่าวมารวมคำนวณเป็นรายจ่าย แม้ว่าจะยังไม่ได้จ่ายจริงในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นก็ตาม โดยมีเงื่อนไขที่ระบุไว้ในมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากรโดยต้องพิจารณาว่ามีรายจ่ายใดที่ต้องห้ามนำมาคำนวณกำไรสุทธิตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี หรือไม่ ในส่วนของเรื่องรายจ่ายนั้นปัจจุบันหากนิติบุคคลมีรายจ่ายจากค่าปรับจราจรทางบกที่ไม่ใช่ค่าปรับทางภาษีอากรทุกประเภทนิติบุคคลนั้นสามารถนำค่าปรับดังกล่าวมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ เนื่องจากไม่มีบัญญัติห้ามไว้ แต่อย่างไรก็ตาม มาตรา 65 ตรี (6) แห่งประมวลรัษฎากรได้มีการบัญญัติห้ามไม่ให้ถือเอาเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าปรับอาญา เป็นรายจ่ายในการนำมาคำนวณกำไรสุทธิ ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงเจตนารมณ์ของมาตรการดังกล่าว คือ การลงโทษผู้ที่กระทำฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น ไม่ยื่นแบบแสดงรายการตามเวลาที่กฎหมายกำหนด หลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งมีเจตนารมณ์เช่นเดียวกับวัตถุประสงค์ของการกำหนดค่าปรับจราจรทางบก เอกัตศึกษาฉบับนี้ได้ศึกษาถึงความเหมาะสมของการกำหนดให้ค่าปรับตามกฎหมายจราจรทางบกเป็นรายจ่ายต้องห้ามตามประมวลรัษฎากรทาย โดยศึกษาเปรียบเทียบแนวทางการกำหนดรายจ่ายต้องห้ามของประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้รัฐสามารถใช้มาตรการทางภาษีเป็นเครื่องมือในการลงโทษผู้กระทำผิดจากกฎหมายจราจรทางบก และเพื่อไม่ให้รัฐสูญเสียรายได้จากที่ควรเก็บได้ en_US
dc.language.iso th en_US
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.relation.uri http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2017.9
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.subject การฝ่าฝืนกฎจราจร en_US
dc.subject การขนส่งทางบก--กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ en_US
dc.title ปัญหาความไม่เสมอภาคจากค่าปรับตามกฎหมายจราจรทางบกและตามกฎหมายภาษีอากรในการใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล en_US
dc.type Independent Study en_US
dc.degree.name ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต en_US
dc.degree.level ปริญญาโท en_US
dc.degree.discipline กฎหมายเศรษฐกิจ en_US
dc.degree.grantor จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.email.advisor ไม่มีข้อมูล
dc.subject.keyword กฎหมายจราจรทางบก en_US
dc.subject.keyword การจ่ายค่าปรับ en_US
dc.identifier.DOI 10.58837/CHULA.IS.2017.9


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record