dc.contributor.advisor |
ศุภลักษณ์ พินิจภูวดล |
|
dc.contributor.author |
วิทวัส โรจน์รังสีธรรม |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2018-12-24T04:24:23Z |
|
dc.date.available |
2018-12-24T04:24:23Z |
|
dc.date.issued |
2560 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61086 |
|
dc.description |
เอกัตศึกษา(ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2560 |
en_US |
dc.description.abstract |
ประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับ การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการขายหุ้น
นอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยราคาขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์นั้นต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิทางบัญชี (Net Asset Value หรือ NAV) หารด้วยจำนวนหุ้นที่ได้จดทะเบียนไว้ไม่ว่าบริษัทนั้นจะมีอสังหาริมทรัพย์หรือไม่มีอสังหาริมทรัพย์ในการครอบครอง อย่างไรก็ตามหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้นยังมีความไม่เหมาะสมในหลายประการ
เอกัตศึกษาเล่มนี้จัดทาขึ้นเพื่อศึกษาปัญหาจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการขาย
หุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลอดจนศึกษากฎหมายของประเทศฟิลิปปินส์และ
ประเทศอินเดียที่มีการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ เพื่อนำ
แนวทางของประเทศฟิลิปปินส์และประเทศอินเดียมาปรับใช้ โดยงานศึกษาเล่มนี้จัดทำขึ้นอาศัย
การวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) ทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นสำคัญ
จากการศึกษาพบว่าหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการขายหุ้นนอกตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขาดความเหมาะสมในด้านความไม่ชัดเจนของหลักเกณฑ์การจัดเก็บ
ภาษีเงินได้จากการขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งขาดการปรับปรุงมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ก่อน
การคำนวณภาษีจากการขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งมีการถ่ายโอนกำไรจากการขายหุ้น
ระหว่างกลุ่มบริษัทที่มีความสัมพันธ์กันเพื่อหลีกเลี่ยงภาระภาษีอากรในประเทศไทย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบต่อนักลงทุนหรือผู้ใช้กฎหมายที่อาจขาดความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนใน
ประเทศไทยอย่างไรก็ตาม จากประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น หลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล
จากการขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยควรกำหนดข้อกฎหมายให้มีความชัดเจน
แน่นอนและกำหนดหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ให้มีความเหมาะสม นอกจากนี้ควรปรับปรุงมูลค่าที่แท้จริงของอสังหาริมทรัพย์ด้วยราคาประเมินของ
กรมธนารักษ์ก่อนการคำนวณภาษีจากการขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์โดยนาแนวทางในการจัดเก็บ
ภาษีจากการขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ของประเทศฟิลิปปินส์และประเทศอินเดียมาปรับใช้ อีกทั้ง
ภาครัฐควรมีมาตรการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับต่างประเทศเพื่อป้องกันการถ่ายโอนกาไรจากการขายหุ้น
ระหว่างกลุ่มบริษัทที่มีความสัมพันธ์กันเพื่อประโยชน์และความยุติธรรมต่อการจัดเก็บภาษีอากรต่อไป |
en_US |
dc.language.iso |
th |
en_US |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.relation.uri |
http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2017.20 |
|
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.subject |
ตลาดหลักทรัพย์ |
en_US |
dc.subject |
หุ้นและการเล่นหุ้น |
en_US |
dc.title |
ปัญหาการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของบริษัทซึ่งมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์อันอยู่ในการครอบครอง |
en_US |
dc.type |
Independent Study |
en_US |
dc.degree.name |
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
en_US |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
en_US |
dc.degree.discipline |
กฎหมายเศรษฐกิจ |
en_US |
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.email.advisor |
Supalak.P@Chula.ac.th |
|
dc.subject.keyword |
การขายหุ้น |
en_US |
dc.subject.keyword |
การเก็บภาษีเงินได้ |
en_US |
dc.identifier.DOI |
10.58837/CHULA.IS.2017.20 |
|