dc.contributor.advisor |
สุนิดา ปรีชาวงษ์ |
|
dc.contributor.author |
พัชรินทร์ อินทร์จันทร์ |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะพยาบาลศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2019-02-26T13:31:19Z |
|
dc.date.available |
2019-02-26T13:31:19Z |
|
dc.date.issued |
2561 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61345 |
|
dc.description |
วิทยานิพนธ์ (พย.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2561 |
|
dc.description.abstract |
การวิจัยกึ่งทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมแบบบูรณาการที่เน้นการออกกำลังกายขณะฟอกเลือดต่ออาการเหนื่อยล้าในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม อายุ 18-60 ปี แบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองกลุ่มละ 25 คน กลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ ในขณะที่กลุ่มทดลองเข้าร่วมโปรแกรมแบบบูรณาการที่เน้นการออกกำลังกายขณะฟอกเลือด โดยออกกำลังกายแบบเพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหวของข้อ ภายใน 2 ชั่วโมงแรกของการฟอกเลือด ครั้งละ 20 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ นาน 8 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบบันทึกข้อมูลทั่วไป แบบประเมินอาการเหนื่อยล้าซึ่งมีค่าความเที่ยง (reliability) เท่ากับ 0.85 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณา วิเคราะห์ความแปรปรวนแบบวัดซ้ำ และการทดสอบที ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. คะแนนเฉลี่ยอาการเหนื่อยล้าของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมหลังเข้าร่วมโปรแกรมแบบบูรณาการที่เน้นการออกกำลังกายขณะฟอกเลือดน้อยกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมฯอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2. คะแนนเฉลี่ยอาการเหนื่อยล้าที่สัปดาห์ที่ 5 และสัปดาห์ที่ 9 ของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมกลุ่มทดลองน้อยกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 |
|
dc.description.abstractalternative |
The purpose of this quasi-experimental was to study the effect of the integrated exercise-oriented program on fatigue in persons with chronic kidney disease receiving hemodialysis. Fifty study samples, aged 18-60 years, were divided into two groups: experimental and control groups, 25 samples each. While the control group received the conventional nursing care, the experimental group participated in the 8-week integrated exercise-oriented program emphasizing on intradialytic exercise. The research instrument used for data collection was the Fatigue Severe Scale questionnaire with a Cronbach‘s alpha coefficient of 0.85. Data were analyzed using descriptive statistics, repeated measures ANOVA and independent t-test. The findings indicated as follows:
1. The mean score of fatigue in the experimental group after participating receiving in the integrated exercise-oriented program was lower than the one before paticipating in the program (p-value < .05).
2. At the 5th and 9th week, the mean scores of fatigue in the experimental group were significantly lower than those in the control group (p-value < .05). |
|
dc.language.iso |
th |
|
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.relation.uri |
http://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2018.991 |
|
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.subject |
ไต -- โรค -- ผู้ป่วย |
|
dc.subject |
การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม |
|
dc.subject |
ความล้า |
|
dc.subject |
การออกกำลังกาย |
|
dc.subject |
Kidneys -- Diseases -- Patients |
|
dc.subject |
Hemodialysis |
|
dc.subject |
Fatigue |
|
dc.subject |
Exercise |
|
dc.subject.classification |
Nursing |
|
dc.title |
ผลของโปรแกรมแบบบูรณาการที่เน้นการออกกำลังกายขณะฟอกเลือดต่ออาการเหนื่อยล้าในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม |
|
dc.title.alternative |
The effect of integrated program emphasizing exercise on fatigue in persons with chronic kidney disease receiving hemodialysis |
|
dc.type |
Thesis |
|
dc.degree.name |
พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต |
|
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
|
dc.degree.discipline |
พยาบาลศาสตร์ |
|
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.email.advisor |
Sunida.P@Chula.ac.th |
|
dc.subject.keyword |
การออกกำลังกาย |
|
dc.subject.keyword |
อาการเหนื่อยล้า |
|
dc.subject.keyword |
โรคไตเรื้อรัง/การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม |
|
dc.subject.keyword |
Exercise/Fatigue/Chronic Kidney Disease/Hemodialysis |
|
dc.identifier.DOI |
10.58837/CHULA.THE.2018.991 |
|