Abstract:
ศึกษาถึงความจำเป็นที่ประเทศไทยจะกำหนดมาตรการทางกฎหมายที่เหมาะสม ในการให้ความคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ในผลิตภัณฑ์ไวน์และสุราในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องให้ความคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ในผลิตภัณฑ์ไวน์และสุราตามความตกลงว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้า ซึ่งเปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกสามารถกำหนดมาตรการทางกฎหมายออกมารองรับ ในระบบที่แตกต่างกัน ปัจจุบันประเทศไทยยังมิได้กำหนดกรอบแนวความคิดที่ชัดเจน ในการให้ความคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในผลิตภัณฑ์ไวน์และสุรา จึงมีปัญหาว่า กรอบของหลักกฎหมายที่เหมาะสมในการให้ความคุ้มครองควรจะมีลักษณะอย่างไร เพื่อเป็นหนทางที่จะนำไปสู่การวิเคราะห์เลือกกฎหมายคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ในสินค้าไวน์และสุราให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจของประเทศไทย จากการศึกษาพบว่า กรอบและกลไกของกฎหมายที่เหมาะสมในการให้ความคุ้มครอง สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในผลิตภัณฑ์ไวน์และสุราในประเทศไทยจะเกิดขึ้นได้ โดยอาศัยปฏิสัมพันธ์ของกฎหมาย เศรษฐกิจ การเมืองและการพัฒนา จากการวิเคราะห์เกี่ยวกับกรอบแนวความคิด ในการให้ความคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ในผลิตภัณฑ์ไวน์และสุราตามหลักเกณฑ์ระหว่างประเทศ กฎหมายต่างประเทศ กฎหมายภายใน ประกอบกับการพิจารณามิติด้านเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมภายในประเทศพบว่า ประเทศไทยควรกำหนดแนวทางการให้ความคุ้มครองตามมาตรฐานขั้นต่ำ ที่ผูกพันอยู่ตามความตกลงว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้า (TRIPS) เท่านั้น ซึ่งอาจทำได้โดยจัดทำระบบดูแลและควบคุมคุณภาพการผลิต รวมทั้งองค์กรซึ่งทำหน้าที่ควบคุมตรวจสอบคุณภาพของสินค้าไปพร้อมกัน ในระยะยาวเมื่ออุตสาหกรรมไวน์และสุราของประเทศไทยมีคุณภาพ ชื่อเสียงคุณลักษณะตามเงื่อนไขการได้รับความคุ้มครอง สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในมาตรฐานขั้นสูง จึงค่อยขยายความคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในผลิตภัณฑ์ไวน์และสุราออกไป เพื่อปกป้องและคุ้มครองผู้ผลิต และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไวน์และสุราของประเทศไทย