Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทของบุคลิกภาพและเพศในการตีความหมาย สิ่งชี้แนะอารมณ์ที่ไม่ใช่วาจา นิสิตระดับปริญญาตรี จำนวน 160 คน เป็นเพศชาย 80 คน และหญิง 80 คน ถูกจำแนกว่ามีลักษณะความไม่มั่นคงทางอารมณ์สูงหรือต่ำแล้วถูกสุ่มเข้ารับการทดลอง เงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งในสี่เงื่อนไข ได้แก่ 1) ความไม่มั่นคงทางอารมณ์ระดับสูง - เพศชาย 2) ความไม่มั่นคงทางอารมณ์ระดับสูง - เพศหญิง 3) ความไม่มั่นคงทางอารมณ์ระดับต่ำ - เพศชาย และ 4) ความไม่มั่นคงทางอารมณ์ระดับต่ำ - เพศหญิง ผู้ร่วมการทดลองถูกขอให้ชมวีดิทัศน์การแสดงอารมณ์ทางสีหน้า ท่าทาง 5 อารมณ์ ได้แก่ อารมณ์สุข ประหลาดใจ กลัว เศร้า และโกรธ และให้ระบุอารมณ์ที่แสดงในวีดิทัศน์ ผลการวิจัย พบว่า 1. ผู้ที่มีบุคลิกภาพมิติความไม่มั่นคงทางอารมณ์สูงมีความสามารถในการตีความหมาย สิ่งชี้แนะอารมณ์ที่ไม่ใช่วาจาสูงกว่าผู้ที่มีบุคลิกภาพมิติความไม่มั่นคงทางอารมณ์ต่ำ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 2. ผู้หญิงมีความสามารถในการตีความหมายสิ่งชี้แนะอารมณ์ที่ไม่ใช่วาจาสูงกว่าผู้ชาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05