Abstract:
การศึกษานี้เป็นการวิจัยแบบย้อนหลัง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาต้นทุนและประสิทธิผลของการพักรักษาในสถานบำบัดแบบระยะสั้น (ไม่เกิน 30 วัน) และระยะยาว (มากกว่า 30 วัน) ในการบำบัดรักษาการใช้สารเมทแอมเฟตามีน รวมถึงศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อความสามารถในการหยุดใช้สารเสพติดได้นานกว่า 3 เดือนหลังเข้ารับการบำบัดรักษาภาวะติดสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนก่อนเข้ารับการรักษาครั้งปัจจุบันที่สถาบันธัญญารักษ์ โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากงานวิจัย ก่อนหน้าที่ได้เก็บข้อมูลโดยใช้แบบประเมินกึ่งโครงสร้างของภาวะติดสารเสพติดและโรคพิษสุราเรื้อรัง (Semi-Structured Assessment for Drug Dependence and Alcoholism Thai version 2.0 SSADDA) จากผู้ที่กำลังเข้ารับการบำบัดรักษาภาวะติดสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนที่สถาบันธัญญารักษ์ เมื่อปี 2550 จนถึงปัจจุบัน ภายหลังจากคัดกรองกลุ่มตัวอย่างตามเกณฑ์การคัดเข้าและเกณฑ์การคัดออกของงานวิจัยแล้ว ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 614 คน คิดเป็นจำนวนครั้งในการเข้ารับการบำบัดรักษาภาวะติดสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนทั้งสิ้น 772 ครั้ง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ซึ่งได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และฐานนิยม จากนั้นวิเคราะห์ต้นทุนและประสิทธิผลของการพักรักษาในสถานบำบัดแบบระยะสั้นและระยะยาวในการบำบัดรักษาการใช้สารเมทแอมเฟตามีนโดยใช้การประเมินทางเศรษฐศาสตร์ และหาความสัมพันธ์โดยสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Chi-square และการวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติก ผลการศึกษา พบว่า การรักษาแบบระยะสั้นมีอัตราส่วนต้นทุนต่อประสิทธิผล อยู่ที่ 1,418.55 บาทต่อการรักษาแบบระยะสั้น 1 คอร์ส ในขณะที่การรักษาแบบระยะยาวมีอัตราส่วนต้นทุนต่อประสิทธิผล อยู่ที่ 13,753.05 บาทต่อการรักษาแบบระยะยาว 1 คอร์ส เมื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการบำบัดรักษากับผลของการบำบัดรักษา พบว่า การบำบัดรักษาภาวะติดสารเสพติดแบบระยะสั้นมีความสัมพันธ์กับความสามารถในการหยุดใช้สารเสพติดได้นานเกินกว่า 3 เดือนหลังการบำบัดรักษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และเมื่อทดสอบความสัมพันธ์กับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการหยุดใช้สารเสพติดได้นานเกินกว่า 3 เดือน พบว่า ระดับการศึกษา การได้รับผลกระทบจากการใช้สารเสพติด และจำนวนวันการรักษาเฉลี่ยที่มากกว่า 30 วัน เป็น 3 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความสามารถในการหยุดใช้สารเสพติดได้นานเกินกว่า 3 เดือนอย่างน้อย 1 ครั้ง หลังเข้ารับการบำบัดรักษาภาวะติดสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนของกลุ่มตัวอย่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ