Abstract:
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบความสามารถของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในการตรวจหาฟันผุด้วยตนเองภายหลังดูสื่อโสตทัศน์ ทำในนักเรียนโรงเรียนบ้านหมากแข้ง จังหวัดอุดรธานี อายุ 10 – 13 ปี ที่มีฟันแท้ขึ้นครบ 24 ซี่ จำนวน 75 คน แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มควบคุม และกลุ่มทดลองด้วยการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย วัดความรู้โดยใช้แบบทดสอบซึ่งเป็นภาพฟันผุ และไม่ผุจำนวน 10 รูป และวัดความสามารถในการตรวจฟันโดยให้นักเรียนตรวจฟันตนเองแต่ละซี่ด้วยกระจกและบันทึกผลในแบบบันทึก ทดสอบความรู้และความสามารถในการตรวจฟันครั้งที่ 1 ก่อน ดูสื่อโสตทัศน์ 2 สัปดาห์ และทดสอบครั้งที่ 2 หลังดูสื่อโสตทัศน์ทันที พบว่ากลุ่มทดลองมีคะแนนความรู้หลังดูสื่อเฉลี่ย 7.59 + 1.35 คะแนน และกลุ่มควบคุมมีคะแนนความรู้เฉลี่ย 4.92 + 1.65 คะแนน เมื่อวิเคราะห์ด้วยสถิติอินดีเพ็นเด็นท์ แซมเปิล ที เทสต์ พบว่ากลุ่มทดลองมีความรู้มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 เมื่อวัดความสามารถในการตรวจฟัน พบว่า กลุ่มทดลองมีคะแนนความสามารถในการตรวจฟันหลังดูสื่อเฉลี่ย 19.18 + 5.00 คะแนน และ กลุ่มควบคุมมีคะแนนความสามารถในการตรวจฟันเฉลี่ย 21.59 + 3.25 คะแนน เมื่อวิเคราะห์ด้วยสถิติแมน วิตนีย์ ยู เทสต์ พบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญทดลองซึ่งมีจำนวน 17 คน พบว่าคะแนนความสามารถในการตรวจฟันผุก่อนดูสื่อเฉลี่ยร้อยละ 9.83 + 20.04 คะแนน และหลังดูสื่อเฉลี่ยร้อยละ 35.38 + 38.30 คะแนน เมื่อวิเคราะห์ด้วยสถิติวิลคอกสัน แมชด์ แพร์ส ไซน์ แรงค์ เทสต์ พบว่านักเรียนมีคะแนนหลังดูสื่อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ดังนั้นการดูสื่อโสตทัศน์ทำให้นักเรียนมีความรู้และสามารถตรวจหาฟันผุด้วยตนเองได้ถูกต้องเพิ่มขึ้น 0.05 อย่างไรก็ดีความสามารถในการตรวจเฉพาะฟันผุของนักเรียนในกลุ่ม