Abstract:
ด้วยประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 388 พ.ศ. 2561 เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิตนำเข้าหรือจำหน่าย กำหนดให้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (ใขมันทรานส์) และอาหารที่มีไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบ เป็นอาหารห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ได้ให้เวลาแก่ผู้ประกอบการร้านอาหารและเบเกอรี่ เตรียมตัวเพื่อบังคับใช้กฎหมายกังกล่าวน้อยมาก กล่าวคือ เพียง 180 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบการดังกล่าว เป็นอันมากกล่าวคือ ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ผลิตรายเล็ก ๆ อีกจำนวนมากที่อาจปรับตัวไม่ทันในการปฏิบัติตามกฎหมายเพราะต้องใช้เวลาในการปรับสูตรอาหารและกระบวนการผลิต การเปลี่ยนฉลากบรรจุภัณฑ์อาหาร และยังทำให้ต้นทุนอาหารเพิ่มสูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการต้องซื้ออาหารในราคาที่แพงขึ้น รวมทั้งการที่ผู้ประกอบการบางส่วนได้เปลี่ยนกระบวนการผลิตเป็นวิธีอินเตอร์เอสเทอริฟิเคชัน (interesterification) เพื่อลดกรดไขมันทรานส์ให้เหลือในปริมาณที่ต่ำมากซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภคเช่นกัน
เมื่อได้มีการศึกษาวิเคราะห์ประเด็นปัญหาและผลกระทบจากการออกประกาศของกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าวข้างต้นแล้ว ผู้ศึกษาจึงเป็นสมควรให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว โดยขยายระยะเวลาเพื่อบังคับใช้กฎหมายออกไปเป็น 3 ปี ทำนองเดียวกับกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา และควรมีมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการดังกล่าวและมาตรการในการคุ้มครองผู้บริโภคด้านราคาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย