Abstract:
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคึกษาพัฒนาการ ต้นทุน และผลกระทบของการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ในประเทศไทย รวมถึงเสนอแนะทางเลือกเชิงนโยบายแก่ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติในการส่งเสริมการพัฒนาวัคซีนเอดส์ในประเทศไทย การศึกษาแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ การศึกษาถึงพัฒนาการของการพัฒนาวัคซีนเอดส์ในประเทศไทย การศึกษาวิเคราะห์เพื่อประมาณการต้นทุนของการพัฒนาวัคซีนเอดส์ในประเทศ ไทย และการประมาณการผลกระทบหากมีการพัฒนาวัคซีนเอดส์เป็นผลสำเร็จและนำออกใช้ในประชากร การประมาณการต้นทุนแต่ละขั้นตอนของการพัฒนาวัคซีนเอดส์โดยใช้หลักการวิเคราะห์ต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ สามารถประมาณการได้ว่าต้นทุนของการพัฒนาวัคซีนเอดส์ในขั้นของการทดลองในห้องปฏิบัติการและการทดสอบประเมินผลวัคซีนทดลองในคนระยะที่หนึ่ง สอง และสาม มีต้นทุนปฏิบัติการรวม 290,300,505 ถึง 595,605,976 บาท โดยคิดเป็นต้นทุน ณ ราคาปีฐาน พ.ศ. 2542 ของต้นทุนการพัฒนาวัคซีนเอดส์ตลอดระยะเวลา การพัฒนาประมาณ 12 ปี คือตั้งแต่กลางปีพ.ศ.2540 ถึงสินปีพ.ศ. 2551 ต้นทุนดังกล่าวเป็นเพียงต้นทุนขั้นตํ่าที่ประมาณการจากการทำการทดลองในระยะต่างๆ ในประเทศไทยระยะละหนึ่งการทดลอง การประมาณการผลกระทบของการพัฒนาวัคซีนเอดส์ในระหว่างปี พ.ศ. 2554-2558 พิจารณาเฉพาะผลกระทบจากการมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่สามารถป้องกันได้โดยวัคซีนที่ประสบผลสำเร็จ 30% และ 50% ตามลำดับ พบว่าในปี พ.ศ. 2554 หากไม่มีการพัฒนาวัคซีนป้องกันเอดส์เป็นผลสำเร็จ ความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเกิดชื้น จากการมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จะมีมูลค่ากว่า 42,000 ล้านบาทต่อปี โดยเป็นต้นทุนที่เกิดจากค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่จะต้องกลายเป็นเอดส์และเสียชีวิตไป และต้นทุนทางอ้อมจากการสูญเสียรายได้จากการเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรของผู้ติดเชื้อรายใหม่เหล่านั้น แต่หากมีการพัฒนาวัคซีนป้องกันเอดส์มาใช้อย่างได้ผลแล้ว จะสามารถลดความสูญเสียได้ถึง ปีละ 13,000 ถึง 21,000 ล้านบาท ณ อัตราความสำเร็จของวัคซีน 30% และ 50% ทั้งนี้ผลได้ดังกล่าวยังไม่เป็นผลได้สุทธิ อันเนื่องมาจากยังคงมีส่วนของต้นทุนของการพัฒนาวัคซีนและต้นทุนของการกระจายวัคซีนรวมอยู่ด้วย นอกจากนั้นยังมีผลได้ต่อระบบเศรษฐกิจและลังคมของประเทศอีกหลายประการที่ไม่ได้ทำการ ประมาณชื้น อันอาจส่งผลให้ผลได้สุทธิมีค่ามากชื้น นับเป็นเหตุผลที่สำคัญในการสนับสนุนให้รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ เข้ามามีบทบาทสนับสนุนอย่างจริงจังต่อการพัฒนาวัคซีนเอดส์ในประเทศไทย