dc.contributor.advisor |
รุจน์ เลาหภักดี |
|
dc.contributor.author |
บริรักษ์ ปะกาสี |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา |
|
dc.date.accessioned |
2020-04-05T04:36:26Z |
|
dc.date.available |
2020-04-05T04:36:26Z |
|
dc.date.issued |
2562 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/64634 |
|
dc.description |
วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2562 |
|
dc.description.abstract |
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของการฝึกเสริมที่ความเข้มข้นสูงแบบหนักสลับเบาที่มีต่อความสามารถด้านแอโรบิกและแอนแอโรบิกของนักกีฬามวยสากลสมัครเล่น และเปรียบเทียบผลของการฝึกเสริมที่ความเข้มข้นสูงแบบหนักสลับเบาร่วมกับการฝึกปกติและผลของการฝึกปกติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นเพศชายของโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรีที่มีอายุระหว่าง 12-18 ปี โดยทำการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (purposive sampling) จำนวน 24 คน จากนั้นแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 12 คนเท่าๆกันด้วยใช้วิธีการจับคู่ (Matched pair) โดยใช้ค่า Vo2max และอายุเป็นเกณฑ์ ดังนี้ กลุ่มทดลองเป็นกลุ่มที่ได้รับการฝึกปกติร่วมกับการฝึกเสริมที่ความเข้มข้นสูงแบบหนักสลับเบา โดยกลุ่มทดลองจะทำการฝึกเสริมด้วยการชกกระสอบทรายที่ความหนัก 90-95% ของชีพจรสูงสุด 20 วินาที และพักแบบมีการเคลื่อนไหว (Active Recovery) โดยการเต้นฟุตเวิคร์ (Boxing Footwork) อยู่กับที่ที่ความหนัก 65-70% ของชีพจรสูงสุด 10 วินาที ทำทั้งหมด 6 รอบ รวมเป็น 1 เซ็ต ฝึก 3 เซ็ต โดยมีการพักระหว่างเซ็ต 2 นาที โดยทำการฝึก 2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 6 สัปดาห์ และกลุ่มควบคุมที่ได้รับการฝึกปกติเพียงอย่างเดียว ก่อนและหลังการฝึก สัปดาห์ที่ 6 ทำการวัดค่าตัวแปร ได้แก่ ความสามารถด้านแอโรบิก คือความสามารถในการใช้ออกซิเจนสูงสุด ความสามารถด้านแอนแอโรบิก คือ ความสามารถสูงสุดแบบแอนแอโรบิกและพลังแบบแอนแอโรบิก นำข้อมูลที่ได้มาหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ โดยใช้การทดสอบค่าที (t-test) กำหนดระดับความมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ผลการวิจัย ก่อนการฝึกทั้งสองก่อนมีค่าตัวแปรพื้นฐานทางสรีรวิทยาต่างๆ ได้แก่ อายุ น้ำหนัก เปอร์เซ็นไขมันในร่างกาย อัตราการเต้นหัวใจขณะพัก อัตราการเต้นหัวใจสูงสุด ความสามารถด้านเเอโรบิกและแอนแอโรบิกของกลุ่มฝึกเสริมที่ความเข้มข้นสูงแบบหนักสลับเบาและกลุ่มที่ฝึกแบบปกติ ไม่เเตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 หลังการฝึกสัปดาห์ที่ 6 พบว่า กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยความสามารถด้านแอโรบิกและแอนแอโรบิกสูงกว่ากลุ่มควบคุมแต่ไม่เเตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
สรุปผลการวิจัยโปรแกรมการฝึกที่ความเข้มข้นสูงแบบหนักสลับเบาในนักกีฬามวยสากลสมัครเล่น ในการวิจัยครั้งนี้มีแนวโน้ม สามารถพัฒนาความสามารถด้านแอโรบิกและแอนแอโรบิกได้ดีกว่ากลุ่มที่ฝึกแบบปกติ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโปรแกรมการฝึกเสริมฯ มีแนวโน้มที่จะพัฒนาความสามารถด้านแอโรบิกและแอนแอโรบิกในนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นได้ |
|
dc.description.abstractalternative |
Purpose: This research aimed to study the effects of supplemented high intensity interval training on aerobic and anaerobic capacity in amateur boxers. Methods: Twenty four male amateur boxers aged between 12-18 years old, from Suphanburi Sport School participated were recriuted and voluntarily paticipated in this study. They were divided into two group ; an experimental group (n = 12) and a control group (n = 12). The experimental group trained using HIIT program in addition to their normal training, twince a week for 6 weeks. The control group, however, underwent a regular training program only. Maximal oxygen uptake (VO2max) was measured by using a modified Bruce protocol and anaerobic power, anaerobic capacity were tested by a Wingate Anaerobic Test. Data were expressed as mean and standard deviation, and were analyzed using a pair sample t-test and independent sample-t test. A level of significant was set at p-value < 0.05 Result: There were no differences in mean age, body weight, Percent fat, Resting hart rate, maximal heart rate, aerobic and anaerobic capacity between two groups before training. After 6 weeks of training, the experimental group had a slightly higher aerobic and anaerobic capacity than that of control group, even though was not significant difference. Conclusion: This result indicates that adding 6 weeks of HIIT training program can increase aerobic and anaerobic capacity, when compared to a regular training in male boxer. |
|
dc.language.iso |
th |
|
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.relation.uri |
http://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2019.1101 |
|
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.subject |
การออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา |
|
dc.subject |
แอโรบิก (กายบริหาร) |
|
dc.subject |
นักมวย |
|
dc.subject |
Interval training |
|
dc.subject |
Aerobic exercises |
|
dc.subject |
Boxers (Sports) |
|
dc.subject.classification |
Health Professions |
|
dc.title |
ผลของการฝึกเสริมที่ความเข้มข้นสูงแบบหนักสลับเบาที่มีต่อความสามารถด้านแอโรบิกและแอนแอโรบิกของนักกีฬามวยสากลสมัครเล่น |
|
dc.title.alternative |
The effects of supplemented high intensity interval training on aerobic and anaerobic capacity in amateur boxers |
|
dc.type |
Thesis |
|
dc.degree.name |
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
|
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
|
dc.degree.discipline |
วิทยาศาสตร์การกีฬา |
|
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.email.advisor |
Ruht.L@Chula.ac.th |
|
dc.identifier.DOI |
10.58837/CHULA.THE.2019.1101 |
|