Abstract:
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลองในห้องปฏิบัติการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบแรงยึดเฉือนและการรั่วซึมของวัสดุเคลือบหลุมและร่องฟันประเภทเรซินผสมฟลูออไรด์ (เฮลิโอซิลเอฟ) กับวัสดุประเภทเรซินไม่ผสมฟลูออไรด์ (เฮลิโอซิล) การศึกษาแรงยึดเฉือนใช้ฟันกรามถาวรจำนวน 15 ซี่ แบ่งฟันในแนวด้านใกล้แก้ม-ใกล้ลิ้นออกเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กัน เลือกแบบสุ่มเข้ากลุ่มควบคุม (เฮลิโอซิล) และกลุ่มทดลอง (เฮลิโอซิลเอฟ) ยึดวัสดุเคลือบหลุมและร่องฟันขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 มิลลิเมตรบนผิวเคลือบฟันด้านใกล้แก้มที่เรียบและบ่มด้วยแสงให้แข็งตัวนำชิ้นตัวอย่างทั้งหมดแช่ในน้ำกลั่นที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 24 ชั่วโมง จากนั้นทดสอบแรงยึดเฉือนด้วยเครื่องทดสอบสากลอินสตรอนที่ความเร็ว 0.5 มิลลิเมตรต่อนาที ผลการทดสอบค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานแรงยึดเฉือนของเฮลิโอซิลเอฟและเฮลิโอซิลมีค่า 15.91±5.18 และ 15.52±3.75 เมกกะปาสคาลเมื่อทดสอบด้วยสถิติ แพร์ทีเทส ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 พบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ การศึกษาการรั่วซึมใช้ฟันกรามน้อยบนจำนวน 30 ซี เลือกแบบสุ่มแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 15 ซี่ เข้ากลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง หลังทางวัสดุเคลือบหลุมและร่องฟัน นำฟันทั้งหมดแช่ในน้ำกลั่นที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ก่อนนำไปผ่านขบวนการเทอร์โมไซคลิงที่ 5 กับ 55 องศาเซลเซียส สลับไปมาทุก ๆ 30 วินาที จำนวน 500 รอบ ทาน้ำยาทาเล็บและลงแช่ในสารละลายเมทิลลีนบลูเข้มข้นร้อยละ 1 เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตัดฟันที่หลุมและร่องฟันด้านใกล้และไกลกลางฟัน ส่องดูด้วยกล้องสเตอริโอไมโครสโคปกำลังขยาย 40 เท่า บันทึกการรั่วซึมเป็นร้อยละของระยะทางของวัสดุเคลือบหลุ่มและร่องฟัน ผลการทดสอบค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการรั่วซึมของเฮลิโอซิลเอฟและเฮลิโอซิล ค่าร้อยละ 26.40±31.29 และ 36.33±32.24 เมื่อทดสอบด้วยสถิติ ทีเทส ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 พบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ