Abstract:
การปรับโครงสร้างกิจการตาม พรก.บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ได้มีการสร้างมาตรการทางกฎหมายขึ้นเพื่อให้ลูกหนี้สามารถปรับโครงสร้างในการบริหารกิจการและธุรกิจของลูกหนี้ให้ยังคงสถานะกิจการไว้ได้ และสามารถสร้างรายได้นำเงินมาชำระหนี้คืนให้กับ บสท. ได้ มาตรการต่าง ๆ ดังกล่าว เช่น การให้อำนาจแก่ บสท. ในการพิจารณาปรับโครงสร้างกิจการ และพิจารณาแผน การแต่งตั้งผู้ทำแผนและผู้บริหารแผน และการสร้างข้อจำกัดสิทธิของบุคคลต่าง ๆ วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาถึงแนวคิดและหลักการของกฎหมายปรับโครงสร้างกิจการ รวมไปถึงปัญหาและข้อพิจารณาเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ที่ บสท. นำมาใช้ในการปรับโครงสร้างกิจการ ตลอดจนเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อให้การปรับโครงสร้างกิจการมีความเหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลที่เข้าร่วมในการปรับโครงสร้างกิจการได้อย่างแท้จริง จากการศึกษาพบว่ากฎหมายปรับโครงสร้างกิจการเป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูฐานะกิจการของลูกหนี้โดยเน้นหลักการในเรื่องความมีประสิทธิภาพและความรวดเร็วเป็นหลัก แต่กฎหมายดังกล่าวยังมีหลักเกณฑ์บางประการที่ไม่ชัดเจนและขาดความเหมาะสม เช่นการไม่มีบทบัญญัติให้ความคุ้มครองเจ้าหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างกิจการ การจำกัดสิทธิเจ้าหนี้ในการพิจารณาแผน การจำกัดอำนาจศาลในการใช้ดุลพินิจ การขาดหลักเกณฑ์ในการเข้าร่วมกระบวนการของเจ้าหนี้ภาษี การกำหนดหลักเกณฑ์การหลุดพ้นความรับผิดของผู้ค้ำประกันได้โดยง่าย และการใช้อำนาจของ บสท. ในการร้องขอต่อศาลให้สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดลูกหนี้ เพื่อให้กฎหมายปรับโครงสร้างกิจการมีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผู้เขียนได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาเป็น 2 วิธี ได้แก่ 1) การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายโดยการเพิ่มบทบัญญัติให้ความคุ้มครองเจ้าหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างกิจการ การกำหนดสิทธิของเจ้าหนี้ในการพิจารณาแผน การเพิ่มอำนาจศาลในการใช้ดุลพินิจ การเพิ่มหลักเกณฑ์เรื่องเจ้าหนี้ภาษี การเปิดช่องให้ลูกหนี้พิสูจน์สถานะตนเองในกรณีที่ บสท. ร้องขอต่อศาลให้สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และ 2) การแก้ไขด้วยวิธีการจัดการและนโยบายของ บสท. โดยการกำหนดนโยบายให้ บสท. ต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่เจ้าหนี้จะได้รับเป็นสำคัญ ทั้งในเรื่องการได้รับชำระหนี้และการพิจารณาแผนโดยต้องถือว่าเจ้าหนี้มีประกันเป็นเจ้าหนี้ที่อยู่ในลำดับเดียวกับ บสท. และมีสิทธิเท่ากับ บสท. สำหรับเรื่องการหลุดพ้นความรับผิดของผู้ค้ำประกันนั้น บสท. จะต้องกำหนดแนวทางที่เหมาะสมในการพิจารณารับชำระหนี้จากผู้ค้ำประกัน เช่น พิจารณาจากคักยภาพของผู้ค้ำประกัน และการสืบทรัพย์ผู้ค้ำประกัน เป็นต้น