Abstract:
รัฐบาลได้กำหนดนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว มีผลทำให้จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 เป็นต้นมามีผลทำให้ความต้องการที่พักอาศัยประเภทบ้านพักตากอากาศมีมากขึ้น ผู้วิจัยได้นำบ้านพักตากอากาศของโครงการบันยันทรี รีสอร์ท ที่นำออกขายแล้ว 12 หน่วย มาเป็น กรณีศึกษา โดยมีจุดประสงค์เพื่อการวิจัยให้ได้ข้อสรุปถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านตากอากาศที่อยู่ในเขตโรงแรม อันจะเป็นประโยชน์ต่อทางราชการและเอกชน ในการพัฒนาที่พักอาศัยประเภทนี้ จากการศึกษาประชากร 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ที่ซื้อแล้วและผู้ที่ยังไม่ได้ซื้อ พบว่า กลุ่มที่ 1) กลุ่มผู้ซื้อบ้านพักตากอากาศแล้ว ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่คุ้นเคยกับประเทศไทย และภูเก็ตค่อนข้างดี มีวัตถุประสงค์ในการซื้อ เนื่องจากได้รับผลตอบแทนจากส่วนแบ่งกำไรของค่าเช่าที่ทางโรงแรมนำไปบริหาร ในช่วงเวลาที่เจ้าของบ้านไม่ได้อยู่อาศัย บุคคลกลุ่มนี้อายุอยู่ระหว่าง 46-55 ปี มีครอบครัวแล้ว มีบุตรตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปต้องการขนาดบ้าน 301-350 ตารางเมตร ใกล้เคียงกับที่พักอาศัยเดิมที่อยู่ มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำและมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นส่วนตัว เช่น สระว่ายน้ำ จากูซี่ สวน ความหรูหราต่าง ๆ ที่เป็นส่วนตัว รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของทางโครงการ เช่น สนามกอล์ฟ และความปลอดภัย คนกลุ่มนี้จะซื้อกับเจ้าของโครงการโดยตรง ไม่ผ่อนกับธนาคาร ราคาที่ต้องการซื้ออยู่ระหว่าง 14-16 ล้านบาท มีรายได้มากกว่า 10 ล้านบาทต่อปี กลุ่มที่ 2) เป็นกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้ซื้อบ้านพักตากอากาศ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย มีทั้งโสด และสมรสแล้ว มีบุตรเฉลี่ย 1 คน อายุระหว่าง 36-45 ปี รู้จักภูเก็ตผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ ส่วนใหญ่มาเที่ยวภูเก็ตเป็นครั้งแรก ในลักษณะท่องเที่ยวระยะสั้นหากมีโอกาสคนกลุ่มนี้ต้องการซื้อบ้านพักตากอากาศจะมีขนาด 271-300 ตารางเมตร มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนเหมือนกลุ่มแรกต้องการซื้อบ้านราคาตํ่ากว่า 10 ล้านบาท คนกลุ่มนี้มีรายได้เฉลี่ยตํ่ากว่า 10ล้าน คนทั้งสองกลุ่ม ต้องการเป็นเข้าของอสังหาริมทรัพย์ ในลักษณะถือครองกรรมสิทธิในพื้นดิน แต่ติดปัญหาด้านกฎหมาย ดังนั้นหากต้องการให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องกำหนดนโยบาย ที่เอื้ออำนวยต่อการพักอาศัยระยะยาว โดยปรับปรุงเรื่องการถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดิน, การอนุญาตทำงานในประเทศ ทั้งนี้จะต้องมีมาตรการในด้านความมั่นคงของประเทศ, การ กระจายรายได้สู่ชุมชน, การส่งเสริมให้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักท่องเที่ยวกับคนในท้องถิ่น ตลอดจนการควบคุมรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม หากรัฐบาลสามารถกำหนดแนวนโยบายด้านเคหะการที่ตรงต่อความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายได้แล้ว ก็สามารถสร้างโอกาสที่จะได้นักท่องเที่ยวคุณภาพสูงเข้ามาพักพิงในภูเก็ตมากขึ้น