Abstract:
การเกิดชุมชนในรูปแบบต่าง ๆ มักก่อให้เกิดปัญหาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ปัญหาความแออัด ปัญหาจราจร รวมไปถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจัดได้ว่าเป็นปัญหาที่มีความสำคัญ หมู่บ้านจัดสรรซึ่งถือได้ว่าเป็นชุมชนในรูปแบบหนึ่งซึ่งภาครัฐได้พยายามจะทำให้สามารถอยู่อาศัยได้โดยไม่ให้เกิดปัญหา จึงได้วางแนวทางในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยให้ผู้ประกอบการจัดให้โครงการหมู่บ้านจัดสรรทุก ๆ โครงการ ต้องจัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสียในโครงการทุก ๆโครงการ แต่เนื่องจากระบบบำบัดน้ำเสียในหมู่บ้านต่าง ๆ มักไม่ได้รับการดูแลรักษา จะด้วยสาเหตุจากความแตกต่างของการใช้งาน การ บำรุงรักษา และทัศนคติของผู้อยู่อาศัยที่มีต่อระบบบำบัดน้ำเสีย จึงเป็นที่มาของการศึกษาครั้งนี้ การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาทัศนคติของผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านจัดสรรที่มีต่อระบบบำบัดน้ำเสียและศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการบำรุงรักษาระบบบำบัดน้ำเสีย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ การใช้แบบสอบถาม รวมไปถึงการสังเกตจากหมู่บ้าน 4 หมู่บ้าน ซึ่งเป็นหมู่บ้านระดับราคาตํ่า ในเขตบางกะปิ โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ ผลการศึกษาเรื่องของทัศนคติที่มีต่อระบบบำบัดน้ำเสีย พบว่า ความแตกต่างของทัศนคติที่มีต่อระบบบำบัดน้ำเสียทั้ง 2 ประเภท มีความแตกต่างกัน คือ ในกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่มีการรับรู้ว่าในบ้านของตนเองใช้ระบบบำบัดน้ำเสียแยกส่วนมีความติดเห็นว่าเป็นภาระความรับผิดชอบของตนเองที่จะต้องดูแลบำรุงรักษารวมไปถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่ในกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่มีการรับรู้ว่าหมู่บ้านของตนเองใช้ระบบบำบัดน้ำเสียรวม มีความคิดเห็นว่า ไม่ใช่หน้าที่ของตนเองที่จะต้องรับผิดชอบภาระการบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากผลการศึกษาในเรื่องของทัศนคติ ที่กล่าวมาแล้ว ยังพบว่า ระบบบำบัดนี้าเสียแยกส่วน ถึงแม้จะมีการรับรู้ที่น้อยกว่าระบบบำบัดน้ำเสียรวม แต่ในเรื่องของการบำรุงรักษาพบว่าระบบบำบัดน้ำเสียแยกส่วนมีการบำรุงรักษาสูงกว่า จากการศึกษาครั้งนี้พบว่า ปัญหาและอุปสรรคในการบำรุงรักษาระบบบำบัดน้ำเสีย 1. การรับรู้ พบว่าในหมู่บ้านที่ใช้ระบบบำบัดน้ำเสียแยกส่วน ผู้อยู่อาศัยมีการรับรู้น้อยกว่าหมู่บ้านที่ใช้ระบบบำบัดน้ำเสียรวม แต่มีการบำรุงรักษาสูงกว่า 2. จิตสำนึก พบว่าผู้อยู่อาศัยมีจิตสำนึกที่ดี แต่ขาดความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องของปัญหามลพิษทางน้ำ และระบบบำบัดน้ำเสียที่ตนเองใช้อยู่จึงทำให้ไม่เห็นความสำคัญและไม่อยากมีระบบบำบัดนำเสีย 3. ทัศนคติของผู้อยู่อาศัย พบว่า ผู้อยู่อาศัยมีความคิดว่าการมีระบบบำบัดน้ำเสียทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงทำให้ผู้มีรายได้น้อยไม่อยากมีระบบบำบัดน้ำเสีย หรือไม่อยากรับภาระค่าใช้จ่ายรวมไปถึงการบำรุงรักษาที่เกิดจาก การมีระบบบำบัดน้ำเสียในส่วนของผู้ที่มีรายได้สูงขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ละบุคคล จากผลการศึกษาดังกล่าว พอจะสรุปได้ว่าระบบบำบัดน้ำเสียแบบแยกส่วน เป็นระบบบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสม สำหรับหมู่บ้านระดับราคาตํ่า เพราะสามารถดูแลรักษาได้ง่าย และใช้งบประมาณในการดูแลต่ำ แต่สำหรับหมู่บ้านในระดับราคาที่ต่างกัน ผลการศึกษาอาจมีความแตกต่างกัน จึงเป็นข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป