DSpace Repository

การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการป่าชายเลน

Show simple item record

dc.contributor.advisor อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์
dc.contributor.author เอกรินทร์ ไพเราะ
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์
dc.date.accessioned 2020-05-12T02:25:21Z
dc.date.available 2020-05-12T02:25:21Z
dc.date.issued 2546
dc.identifier.isbn 9741758731
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/65732
dc.description วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2546 en_US
dc.description.abstract วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ต้องการที่จะศึกษาถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการป่าชายเลน โดยต้องการที่จะทำการศึกษาถึง ปัญหา อุปสรรค และข้อจำกัดของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการปาชายเลนตลอดจนระดับและรูปแบบขององค์กรประชาชนที่เหมาะสมต่อการมีส่วนร่วมในการจัดการป่าชายเลนเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนากฎหมายในการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการป่าชายเลนให้มีความชัดเจนและเพียงพอต่อการรับรองสิทธิการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการปาชายเลน เนื่องจากอำนาจและหน้าที่ในการจัดการป่าชายเลนเป็นของรัฐแต่เพียงฝ่ายเดียวซึ่งที่ผ่านมานั้นรัฐไม่สามารถที่จะจัดการป่าชายเลนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ ดังจะเห็นได้จากที่ผ่านมานั้นป่าชายเลนมีปริมาณลดลงและเกิดความเสื่อมโทรมจนถึงขั้นวิกฤต ซึ่งจากปัญหาการจัดการป่าชายเลนของรัฐที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอดังกล่าวปรากฎว่า ในขณะเดียวกันประชาชนในชุมชนป่าชายเลนในบางพื้นที่ได้มีการรวมกลุ่มกันเพื่อจัดการป่าชายเลนในชุมชนโดยกำหนดมาตรการในการใช้ประโยชน์ ตลอดจนการอนุรักษ์และพิทักษ์รักษาป่าชายเลนจนทำให้ป่าชายเลนในชุมชนนั้นมีสภาพอุดมสมบูรณ์ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในชุมชนประกอบ'ตั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธดักราช 2540 อย่างเช่น มาตรา 46 และมาตรา 56 ได้บัญญัติรับรองสิทธิประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ แต่ปรากฏว่ากฎหมายที่นำมาใช้บังดับในการจัดการป่าชายเลนในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และพระราชบัญญัติอุทยาน แห่งชาติ พ.ศ. 2504 นั้นยังมีได้บัญญัติรับรองสิทธิประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการป่าชายเลนไว้แต่อย่างใด จากการศึกษาพบว่า ประชาชนสามารถจัดการป่าชายเลนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น รัฐควรที่จะต้องตรากฎหมายออกมาบัญญัติรับรองสิทธิประชาชนในการมีส่วนร่วมจัดการป่าชายเลนให้สอดคลัองกับบทบัญญัติแห่ง รัฐธรรมนูญที่ได้บัญญัติรับรองการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติโดยผู้วิจัยเห็นว่า กฎหมายนั้นจะต้องกำหนดให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการป่าชายเลนในระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ การร่วมรับข้อมูลข่าวสาร การร่วมติดร่วมแสดงความคิดเห็น ร่วมพิจารณา ร่วมตัดสินใจ ร่วมดำเนินการ ร่วมติดตามตรวจสอบประเมินผลและร่วมรับผลกระทบ และจะต้องมีรูปแบบขององค์กรประชาชนในการเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการป่าชายเลนที่มีความเหมาะสม โดยผู้วิจัยเสนอให้มีการออกกฎหมายมาบัญญัติรับรองสิทธิของประชาชนในการมีส่วนร่วมจัดการป่าชายเลน เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 พระราชบัญญัติปาสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ให้มีความสอดคล้องกับ กฎหมายที่บัญญัติรับรองสิทธิของประชาชนในการมีส่วนร่วมในการจัดการป่าชายเลนด้วย ซึ่งจะทำให้การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการป่าชายเลนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฯ
dc.description.abstractalternative This thesis examines public participation in mangrove forest management, focusing on problems, obstacles and limitations as well as the levels and appropriate patterns of public organization, regarding to mangrove forest management. It aims to provide guidelines to establish concerning laws, by which public rights on said matter are fully assured. The government, though, monopolizes the authority of mangrove forest management; they cannot accomplish the objective efficiently. The mangrove forest continues declining and critically deteriorating. The local habitants in adjacent area, meanwhile, organize their own groups with the intention of mangrove area management. They settle not only regulations on mangrove forest utilization but also measures to protect and restore mangrove forest condition for their sustainable way of life. Section 46 and 56 of Thai Constitution B.E. 2540 attest public rights on natural resource management but they are not applied in managing mangrove forest yet. The Forest Act B.E. 2484, Forest Conservation Act B.E. 2507 and National Park Act B.E. 2504, besides, do not assure public rights on this issue. The study revealed that local people could manage mangrove forest efficiently. The government, therefore, should enact related laws to ensure public rights in conformity with current Constitution. I would recommend the laws should cover all levels of participation such as information reception, opinion expression, assessment, decision-making, cooperating and side effect sharing as well as appropriately regulate public organizations. I recommend the laws on public rights in mangrove forest management should be enforced in conformity with the constitution. Besides, Forest Act B.E. 2484, Forest Conservation Act B.E. 2507 and National Park Act B.E. 2504 should be amended on the same reason. This not only promotes the efficiency of public participation in mangrove forest management but also is in accordance with the constitution.
dc.language.iso th en_US
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.subject ป่าชายเลน -- ไทย en_US
dc.subject ป่าชายเลน -- การมีส่วนร่วมของประชาชน en_US
dc.subject ป่าชายเลน -- กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ -- ไทย en_US
dc.subject Mangrove forests -- Thailand en_US
dc.subject Mangrove forests -- Citizen participation en_US
dc.subject Mangrove forests -- Law and legislation -- Thailand en_US
dc.title การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการป่าชายเลน en_US
dc.title.alternative Public paticipation in mangrove forest management en_US
dc.type Thesis en_US
dc.degree.name นิติศาสตรมหาบัณฑิต en_US
dc.degree.level ปริญญาโท en_US
dc.degree.discipline นิติศาสตร์ en_US
dc.degree.grantor จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.email.advisor Eathipol.S@Chula.ac.th


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record