Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการทรุดตัวของแผ่นดินในสภาพปัจจุบัน และศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดแผ่นดินทรุดในเขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ผู้วิจัยได้ทำการแปลและตีความรูปถ่ายทางอากาศในปี พ.ศ. 2517 พ.ศ. 2528 และ พ.ศ. 2541 พร้อมทั้งการสำรวจภาคสนาม เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน การสำรวจในภาคสนามประกอบด้วยการรังวัดระดับความสูงตํ่าของภูมิประเทศ การวัดการทรุดตัวของแผ่นดินจากรอยแตกของอาคารจานวน 219 อาคารและเก็บข้อมูลเพิ่มเติมจากการสัมภาษณ์ผู้อยู่อาศัย ในการศึกษาได้ทำการวิเคราะห์ด้วยเทคนิคการวางซ้อนข้อมูล การแสดงภาพจำลองของภูมิประเทศแบบ 3 มิติและใช้วิธีการกำหนด Weighting method ของอาคารโดยการใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) และใช้สมการถดถอยเชิงเส้นตรงในการคาดการณ์การทรุดตัวของหมุดหลักฐานทางดิ่งของกรมแผนที่ทหารจำนวน 12 หมุด จากผลการศึกษาพบว่า ที่ดินประเภทสถาบันราชการ มีการทรุดตัวมากที่สุด รองลงมาคือที่ดินประเภทอุตสาหกรรม ที่ดินประเภทสถาบันการศึกษา ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม ที่ดินประเภทสถาบันศาสนา ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัย และที่ดินประเภทคลังสินค้าและโกดัง ตามลำดับจำนวนชนและประเภทของอาคารจะมีผลอย่างมากต่อการทรุดตัวของแผ่นดิน การใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในการกำหนด Weightina method และการกำหนดระยะห่างของที่ตั้งอาคารจากถนนสายหลัก ซึ่งพบว่าถ้าอาคารอยู่ห่างจากถนนมากขึ้นก็จะมีการทรุดตัวน้อยลง กล่าวโดยสรุปการนำนํ้าใต้ดินมาใช้เกินปริมาณสมดุล จำนวนชั้นและประเภทอาคาร และประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดินมิผลต่อการทรุตตัวของแผ่นดินในอัตราที่ไม่เท่ากัน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทสถาบันราชการมีการทรุดตัวของแผ่นดินมากที่สุด