Abstract:
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเดินทางของผู้เดินทางของผู้เดินทางที่ใช้รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนร่วมกับการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคล วิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเดินทาง สภาพความต้องการพื้นที่จอดรถยนต์เพื่อสนับสนุนการเดินทาง ตลอดจนศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางการจัดทำพื้นที่จอดรถยนต์เพื่อสนับสนุนโครงการระบบขนส่งมวลชน ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ภายหลังจากที่รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพเปิดให้บริการมีประชากรกลุ่มหนึ่งเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางโดยหันมาใช้รถไฟฟ้าเป็นพาหนะในการเดินทางควบคู่ไปกับการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคล ในลักษณะของการจอดรถยนต์ส่วนบุคคลไว้บริเวณสถานที่จอดรถยนต์แล้วจึงอาศัยรถไฟฟ้าเป็นพาหนะในการเดินทางเพื่อประกอบกิจกรรมต่างๆ ทั้งนี้พฤติกรรมการเดินทางของผู้ใช้รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนร่วมกับรถยนต์ส่วนบุคคลแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันออกไป โดยสามารถแบ่งกลุ่มพฤติกรรมการเดินทางออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ กลุ่มที่นิยมจอดรถยนต์ส่วนบุคคลไว้บริเวณจุดเริ่มต้นของการเดินทางแล้วอาศัยรถไฟฟ้ขนส่งมวลชนเป็นพาหนะในการเดินทาง ในลักษณะของการเดินทางที่เกิดขึ้นเป็นเที่ยวแรกของวัน กับกลุ่มที่นิยมนำรถยนต์ส่วนบุคคลเข้ามาจอดยังบริเวณสถานที่ทำงานจากนั้นในระหว่างวันหากจำเป็นต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจหรือทำกิจกรรมยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งอยู่ในบริเวณเส้นทางจึงอาศัยรถไฟฟ้าเป็นพาหนะในการเดินทางเป็นลักษณะของการเดินทางระยะสั้น ทั้งนี้การตัดสินใจของแต่ละบุคคลจะขึ้นอยู่กับปัจจัยทางด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเวลาค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทำเลที่ตั้งของจุดเริ่มต้นของการเดินทางและจุดหมายปลายทาง ลักษณะส่วนบุคคลของผุ้เดินทางตลอดจนปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น การขาดประสิทธิภาพของระบบขนส่งสาธารณะ ปริมาณการจราจรในขณะนั้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นและมีอิทธิพลต่อการเลือกรูปแบบการเดินทาง ในเบื้องต้นขณะที่โครงข่ายเส้นทางการให้บริการมีเพียงเส้นทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพเส้นทางเดียว จึงเสนอให้มีการพัฒนาพื้นที่จอดรถยนต์เพื่อสนับสนุนการเดินทางเฉพาะในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงสุดอันได้แก่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าหมอชิต สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช และสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน เพื่อเป็นการรองรับปริมาณการเดินทางที่เกิดจากพื้นที่รอบนอกของกรุงเทพมหานคร และเป็นการสนับสนุนให้เกิดการเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชน ตลอดจนผลักดันให้เกิดการลดปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลง เนื่องจากว่าบริเวณสถานีทั้ง 3 แห่งนี้เป็นสถานีซึ่งมีปริมาณการเดินทางสูง และเป็นสถานีปลายทางซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณที่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินหนาแน่น โดยที่การพัฒนาจำเป็นต้องคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มผู้ใช้บริการทั้งในด้านของทำเลที่ตั้งของสถานที่จอดรถยนต์ ระยะห่างระหว่างสถานที่จอดรถยนต์และสถานีรถไฟฟ้า ค่าใช้จ่าย ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นอกจากนี้ยังเสนอแนะให้มีการปรับปรุงและพัฒนาระบบการให้บริการของระบบขนส่งสาธารณประเภทอื่นๆ ควรมีมาตรการจำกัดปริมาณสถานที่จอดรถยนต์ในพื้นที่เขตเมืองชั้นใน และยกเลิกการจอดรถยนต์บริเวณริมขอบทางและเนื่องจากโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพเป็นเพียงโครงข่ายหนึ่งของทั้งระบบจึงควรได้มีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อขยายผลให้ครอบคลุมทั้งระบบ เพื่อเป็นการวางแผนสำหรับการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและพื้นที่จอดรถยนต์ในอนาคต