Abstract:
ปัจจุบันการดำเนินคดีความผิดฐานฟอกเงินยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคดีรายสำคัญ ๆ ไม่สามารถนำตัวผู้กระทบความผิดมาลงโทษได้ แม้จะมีมาตรการตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นมาตรการในการสกัดกั้นการกระทำความผิดก็ตาม สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การดำเนินคดีความผิดฐานฟอกเงินยังไม่บรรลุตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ก็คือ กระบวนการในขั้นสอบนวนฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้ต้องหาในความผิดฐานฟอกเงินนั้น กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมิได้เอื้ออำนวยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปปง. มีอำนาจในการสอบสวนคดีอาญาที่เป็นความผิดฐานฟอกเงิน ผู้ที่มีอำนาจในการสอบสวนมีเพียงพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเท่านั้น พนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง. มิได้มีบทบาทและอำนาจในการสอบสวนคดีแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง. เป็นผู้ที่มีทักษะ ความรู้ ความชำนาญในคดีฟอกเงิน มีความรู้ในกฎหมายระเบียนปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวมทั้งเทคนิคในการสืบสวนและสอบสวนคดีฟอกเงินเป็นอย่างดี เป็นเหตุให้การดำเนินคดีมีความล่าช้าและขาดประสิทธิภาพ ทั้งที่การสอบสวนเป็นกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้นที่มีความสำคัญ การจำนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโาษได้หรือไม่ ประการสำคัญอยู่ที่ประสิทธิภาพในการสอบสวน ดังนั้น จึงควรที่จะพิจารณาแก้ไขตัวบทกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง. เป็นผู้มีอำนาจในการสอบสวนคดีอาญาฐานฟอกเงินโดยเฉพาะ และให้ถือว่าการอสบสวนดังกล่าวเป็นการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจะทำให้กระบวนการยุติธรรมในดคีความผิดฐานฟอกเงินเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ได้ชี้ให้เห็นถึงการเพิ่มบทบาทและอำนาจในการสอบสวนคดีอาญาฐานฟอกเงินแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง. อันจะทำให้การดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงินเป้นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังได้เสนอกระบวนการในการควบคุมการใช้อำนาจดังกล่าวของพนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง. หากมีการเพิ่มบทบาทและนาจให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง. มีอำนาจสอบสวนแล้ว จำป็นจะต้องมีกลไกในการทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจดังกล่าว โดยมีองค์กรหรือหน่วยงานทำหน้าที่ตรวจสอบการช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง.ทั้งนี้ เพื่อเป็นหลักประกันแก่ประชาชนว่าการสอบสวนจเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ถูกต้องและยุติธรรม ไม่มีการใช้อำนาจในทางที่มิชอบ อันส่งผลให้การดำเนินคดีความผิดฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 สามารถบรรลุตามเจตนารมณ์อย่างแท้จริง