Abstract:
จากนิยามความหมายของสัญญาทางปกครองตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 และหลักเกณฑ์ในการวินิจฉัยสัญญาทางปกครองโดยศาลปกครองไทยเกี่ยวกับสัญญาจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการยังไม่มีความชัดเจนเพียงพอที่จะพิจารณาว่าสัญญาจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการสัญญาใดมีลักษณะเป็นสัญญาทางปกครอง ซึ่งการวินิจฉัยถึงความเป็นสัญญาทางปกครองมีผลต่อระบบกฎหมายที่จะนำมาใช้บังคับกับสัญญา วิทยานิพนธ์นี้จึงมุ่งศึกษาถึงหลักเกณฑ์ในการวินิจฉัยสัญญาทางปกครองในต่างประเทศและแนวคำวินิจฉัยของศาลปกครองไทยเกี่ยวกับสัญญาจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ ผลการศึกษาพบว่า สัญญาจัดซื้อจัดจ้างที่ส่วนราชการดำเนินการตามแบบสัญญามาตรฐานที่คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุกำหนดประเภทสัญญาซื้อขาย สัญญาจ้าง สัญญาจ้างที่ปรึกษา และสัญญาจ้างออกแบบและควบคุมงานมีลักษณะเป็นสัญญาทางปกครองเนื่องจากมีคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองและมีลักษณะเป็นสัญญาที่ให้จัดทำบริการสาธารณะหรือจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภค หรือมีข้อกำหนดในสัญญาเป็นการให้เอกสิทธิ์แก่ฝ่ายปกครองมากกว่าคู่สัญญาฝ่ายเอกชน อย่างไรก็ตาม แม้ต่อมา ศาลปกครองจะพิพากษาให้สัญญาจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการเป็นสัญญาทางปกครองมากขึ้น แต่คำพิพากษาของศาลปกครองก็ยังไม่มีความชัดเจนเพียงพอ ผู้เขียนจึงเสนอแนวทางการพิจารณาสัญญาจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น โดยเสนอให้มีการพิจารณาเนื้อหาสาระของสัญญามากขึ้น พิจารณาข้อกำหนดในสัญญาที่ให้เอกสิทธิ์แก่คู่สัญญาส่วนราชการ และเสนอให้มีการแก้ไขนิยามความหมายของสัญญาทางปกครองไว้ด้วย