Abstract:
ในการศึกษาวิจัยเรื่องการต่อเติมบ้านซึ่งปลูกสร้างโดยบริษัทรับสร้างบ้าน : กรณีศึกษาบ้านเดี่ยวที่ปลูกสร้างโดยบริษัทปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด ศึกษาเพื่อทราบถึงเหตุผลในการเลือกสร้างบ้านตามแบบมาตรฐานกับบริษัทปทุมดีไซน์ฯ ภายหลังการเข้าอยู่อาศัยแล้วศึกษารูปแบบของบ้านที่ต่อเติมและพื้นที่ใช้สอยที่ต่อเติมมากที่สุด โดยศึกษาถึงปัจจัยหรือเหตุผลในการต่อเติมทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม จากการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นของผู้อยู่อาศัยที่ปลูกสร้างบ้านบริษัทปทุมดีไซน์ฯ และเข้าอยู่อาศัยแล้ว พบว่ามีการต่อเติมเปลี่ยนแปลงทั้งรูปแบบและพื้นที่ใช้สอยเป็นจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนบ้านที่ส่งมอบระหว่างปี พ.ศ. 2539-2547 เหตุผลของการต่อเติมประการแรกเพื่อความสะดวกสบายของการอยู่อาศัย ประการที่สองการเพิ่มของสมาชิกในครัวเรือนและประการสุดท้ายเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้การต่อเติมที่อยู่อาศัยขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงสถานภาพทางสังคมและเศรษฐกิจของครัวเรือน ในการเก็บข้อมูลผู้วิจัยเลือกกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่สร้างบ้านตามแบบมาตรฐานกับบริษัทปทุมดีไซน์ฯ จำนวน 5 แบบ ที่ส่งมอบระหว่างปี พ.ศ. 2539-2547 จำนวน 45 หลัง โดยใช้แบบสัมภาษณ์ โครงสร้างของแบบสอบถามประกอบด้วย 5 ส่วน คือ ส่วนแรกเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง ส่วนที่ 2 เกี่ยวกับลักษณะของบ้าน แบบบ้าน ขนาดที่ดิน ขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน รวมทั้งข้อมูลด้านราคาและการต่อเติมภายหลัง เพื่อทราบเหตุผลที่ทำการต่อเติมเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอย ส่วนที่ 3 เกี่ยวกับการต่อเติมและเปลี่ยนแปลงพื้นที่ ลักษณะการใช้พื้นที่ก่อนการต่อเติมแลเะหลังจากต่อเติมแล้ว ส่วนที่ 4 เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดหลังจากการต่อเติมและเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอยของบ้าน และส่วนสุดท้ายเกี่ยวกับการจัดการเรื่องการต่อเติม จากการเก็บข้อมูลภาคสนามพบว่า กลุ่มตัวอย่างเป็นครอบครัวขนาดเล็กประมาณ 3-5 คน เป็นกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางสร้างบ้านราคาโดยประมาณ 800,000-1,200,000 บาท ขนาดที่ดินประมาณ 50-60 ตารางวา ขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 100-150 ตารางเมตร พื้นที่ส่วนที่มีการต่อเติมมากที่สุด คือ ส่วนห้องครัว รองลงมาคือ ที่จอดรถ และลานซักล้างตามลำดับ สาเหตุหรือปัจจัยในการต่อเติมบ้านส่วนมากมาจาก ครอบครัวมีการขยายมีสมาชิกเพิ่มขึ้น จึงต้องการพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าแบบบ้านมีพื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอ เล็กเกินไปและในส่วนที่จอดรถและลานซักล้างมีความไม่เหมาะสมต่อการทำกิจกรรม คือ มีฝนสาด เป็นต้น ในการต่อเติมเปลี่ยนแปลงส่วนนี้มีทั้งต่อเติมหลังคาในพื้นที่ใช้สอยเท่าเดิม และการต่อเติมขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่ขึ้น ระยะเวลาในการต่อเติมมีทั้ง ต่อเติมทันทีภายหลังการส่งมอบ และต่อเติมภายหลังการอยู่อาศัยแล้วเป็นเวลาประมาณ 2-6 ปี ภายหลังการต่อเติมพบว่าสามารถแก้ปัญหาด้านพื้นที่ใช้สอยของผู้อยู่อาศัยได้ แต่พบว่าการต่อเติมโดยไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะมีปัญหาด้านโครงสร้าง คือ พื้นทรุด ผนังแตกร้าวและน้ำรั่ว นอกจากนี้ยังมีปัญหาการต่อเติมปิดบังทัศนียภาพบ้านเดิม จากผลการศึกษาและวิเคราะห์ร่วมกับแนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง มีประเด็นที่เกี่ยวข้อง คือ แม้จะมีการสร้างบ้านโดยบริษัทรับสร้างบ้าน พบว่าเจ้าของบ้านจะมีการต่อเติมเปลี่ยนแปลงไม่ต่างจากผู้ที่อยู่อาศัยบ้านจัดสรรทั้งระบบการก่อสร้างแบบทั่วไปและระบบการก่อสร้างแบบสำเร็จรูป ซึ่งการต่อเติมนั้นจะเป็นไปตามสถานะและวิถีการดำรงชีวิตของครอบครัว ดังนั้น บริษัทที่รับสร้างบ้านควรมีนโยบายออกแบบบ้านที่มีการเผื่อพื้นที่สำหรับต่อเติมในอนาคตโดยเฉพาะห้องครัว ที่จอดรถ ลานซักล้างและห้องนอนเล็ก ในกรณีที่มีพื้นที่ดินเพียงพอในการต่อเติม สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ดินจำกัดเสนอแนะให้มีการออกแบบบ้าน 2 แบบ คือ การออกแบบพื้นที่ให้มีพื้นที่ใช้สอยครบแต่มีขนาดพื้นที่เล็ก และแบบที่สอง คือ การออกแบบบ้านให้แต่ละส่วนโล่งสามารถเชื่อมต่อกันได้ สำหรับผู้อยู่อาศัยสามารถกั้นแบ่งต่อเติมเปลี่ยนแปลงได้ใหม่