dc.contributor.advisor |
สุรีพร ธนศิลป์ |
|
dc.contributor.author |
เบญจมาศ ตระกูลงามเด่น |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะพยาบาลศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2020-08-14T02:55:42Z |
|
dc.date.available |
2020-08-14T02:55:42Z |
|
dc.date.issued |
2011 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/67460 |
|
dc.description |
วิทยานิพนธ์ (พย.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2554 |
|
dc.description.abstract |
การวิจัยกึ่งทดลองครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการจัดการอาการที่เน้นการสวดมนต์ต่ออาการปวดของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยคือ ผู้ป่วยมะเร็งที่เข้ารับบริการที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย อโรคยศาล วัดคำประมง จังหวัดสกลนคร จำนวน 60 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลในกลุ่มควบคุมจนครบ 30 ราย แล้วจึงเริ่มเก็บรวบรวมข้อมูลในกลุ่มทดลอง กลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ ในขณะที่กลุ่มทดลองได้รับการพยาบาลตามปกติร่วมกับโปรแกรมการจัดการอาการที่เน้นการสวดมนต์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ โปรแกรมการจัดการอาการที่เน้นการสวดมนต์ ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นจากรูปแบบการจัดการอาการของ Dodd et al. (2001) และแนวคิดเกี่ยวกับการสวดมนต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพยาบาลแบบผสมผสาน โดยโปรแกรมประกอบด้วย 4 ขั้นตอนคือ 1) การประเมินความต้องการและประสบการณ์การรับรู้ของผู้ป่วย 2) การให้ความรู้ในการจัดการอาการปวด 3) การฝึกทักษะการจัดการอาการปวดและการสวดมนต์ 4) การประเมินผล สื่อที่ใช้ในโปรแกรมประกอบด้วย แผนการสอน คู่มือการจัดการอาการปวดด้วยตนเอง และเครื่องเล่นบันทึกเสียงและเทปบันทึกการสวดมนต์ โดยโปรแกรมและสื่อผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 ท่าน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบประเมินอาการปวด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบความแปรปรวน และสถิติทดสอบที ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. อาการปวดภายหลังการทดลอง 4 วันและ 7 วันของกลุ่มทดลองน้อยกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. อาการปวดภายหลังการทดลอง 4 วันและ 7 วันของกลุ่มทดลอง น้อยกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 |
|
dc.description.abstractalternative |
This quasi-experimental research aimed to test the effect of symptom management program focusing on praying on pain of terminal cancer patients. Study sample were 60 terminal cancer patients who were treated at Arokayasala Wat Khampramong, Skon Nakhon Province. The subjects were divided into control group and experimental group. The control group received routine nursing care, while the experimental group received routine nursing care and the Symptom Management Program focusing on Praying. The program was based on the Symptom Management Model (Dodd et al., 2001) and praying as part of complementary concepts that comprised of four sessions: a) symptom experience assessment, b) knowledge providing, c) symptom management training and praying, d) evaluation phase. The Wong-Baker face pain rating scale was used to measure the collected data. Furthermore, Independent t-test was used to analyze comparison of data between the two groups. The major findings showed that: 1. The 4 days and 7 days pain of experimental group were significantly lower than those of the control group (p<.05). 2. The 4 days and 7 days posttest pain of the experimental group were significantly lower than that of the pretest phase (p<.05). |
|
dc.language.iso |
th |
|
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|
dc.subject |
ผู้ป่วยระยะสุดท้าย -- การดูแล |
|
dc.subject |
การสวดมนต์ |
|
dc.subject |
ความเจ็บปวดจากมะเร็ง |
|
dc.subject |
Terminal care |
|
dc.subject |
Prayer |
|
dc.subject |
Cancer pain |
|
dc.title |
ผลของโปรแกรมการจัดการอาการที่เน้นการสวดมนต์ต่ออาการปวดของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย |
|
dc.title.alternative |
The Effect of symptom management program focusing praying on pain of terminal cancer patients |
|
dc.type |
Thesis |
|
dc.degree.name |
พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต |
|
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
|
dc.degree.discipline |
พยาบาลศาสตร์ |
|
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
|