Abstract:
จากการที่ร้อยละ 85 ของผู้มาร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นเรื่องที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาโครงการปลูกสร้างไม่แล้วเสร็จ การไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์โครงการไม่จัดทำสาธารณูปโภค การปลูกสร้างไม่เรียบร้อย และการใช้พื้นที่ส่วนกลางเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล การวิจัยครั้งนี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา ลำดับความสำคัญของปัญหา รายละเอียดของปัญหา ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ร้องเรียน และทัศนคติที่มีต่อมาตรการของรัฐที่จะออกมาแก้ไขปัญหา โดยวิธีการใช้วิธีสุ่มตัวอย่าง เพื่อสอบถามผู้ที่มาร้องเรียนในช่วงปี พ.ศ.2542 จำนวน 365 ราย จากการศึกษาครั้งนี้พบว่า ปัญหาที่ผู้ซื้อมาร้องเรียนมากที่สุด เรียงตามลำดับ ดังนี้ โครงการปลูกสร้างไม่แล้วเสร็จ การปลูกสร้างไม่เรียบร้อย การไม่จัดทำสาธารณูปโภค การไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ และการใช้พื้นที่ส่วนกลางเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ประเภทที่อยู่อาศัยที่มีปัญหาร้องเรียนมากที่สุด คือ อาคารชุดพักอาศัย ที่มีการซื้อ-ขาย ในระหว่างปี พ.ศ.2536-2539 ผู้ที่มาร้องเรียนส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์ในการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อเป็นบ้านหลังแรกต้องการให้ผู้ประกอบการคืนเงินสำหรับทัศนคติของผู้ซื้อที่มีต่อมาตรการของรัฐ พบว่า ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับมาตรการสัญญามาตรฐานมาตรการเปิดให้จองโครงการเมื่อโครงการสร้างแล้วเสร็จ และมาตรการชำระเงินผ่านบุคคลที่สามตามลำดับ จากการศึกษาครั้งนี้ พบว่า ข้อมูลของผู้มีปัญหาเรื่องการซื้อที่อยู่อาศัยที่มาร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์และมีนัยสำคัญหลายประการ ควรที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จะจัดเก็บข้อมูลให้เป็นระบบ เพื่อให้ทราบรายละเอียดและสามารถวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ รวมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม