Abstract:
“การฟอกเงิน” เป็นการกระทำความผิดที่มีลักษณะเป็นการเปลี่ยนเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือโดยมิชอบด้วยกฎหมายให้เสมือนหนึ่งว่าเป็นเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาโดยชอบ หรืออาจกล่าวได้ว่าการฟอกเงินเป็นกระบวนการซึ่งบุคคลปกปิดแหล่งที่มาของรายได้ที่ผิดกฎหมาย และทำให้รายได้นั้นกลายเป็นรายได้ที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งวิธีการที่จะฟอกเงินนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาเงินสดติดตัวออกนอกประเทศ การฝากเงินกับสถาบันการเงิน การโอนเงินสดออกนอกประเทศ รวมทั้งการตั้งบริษัทหรือกิจการขึ้นบังหน้า ซึ่งวิธีการดังกล่าวเป็นวิธีการที่อาชญากรใช้ฟอกเงินมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันนี้ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ซึ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีดังกล่าวก็ยังคงมีช่องว่างบางประการอยู่ ซึ่งนักฟอกเงินได้อาศัยช่องว่างดังกล่าวนี้ในการเอื้อประโยชน์แก่ตนเพื่อประกอบอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอาศัยเครือข่ายอินเตอร์เนตในการฟอกเงิน เนื่องจากเครือข่ายอินเตอร์เนต เป็นเครือข่ายที่มีการเชื่อมโยงกับคอมพิวเตอร์ได้ทั่วทุกมุมโลกสามารถส่งผ่านข้อมูลกันได้ตลอดเวลาโดยไม่มีข้อจำกัด และไม่มีการตรวจสอบการใช้บริการใด ๆ เลย ซึ่งปัจจุบันมีการให้บริการการค้าพาณิชย์ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เนต ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการค้าขายได้เป็นอย่างดี รวมถึงการให้บริการของทางธนาคารในการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เนตได้โดยง่าย ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวยังมีช่องว่างมากมายที่ผู้ฟอกเงินสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับจากทางการได้ ดังนั้นในต่างประเทศอาชญากรจึงนิยมใช้บริการดังกล่าวเพื่อประกอบการฟอกเงิน เนื่องจากสามารถทำการฟอกเงินได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น และยากแก่การติดตามร่องรอยการฟอกเงิน วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ผู้เขียนได้เสนอแนวทางในการควบคุม กำกับ ดูแล ตรวจสอบ และสกัดกั้นการฟอกเงินโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในเครือข่ายอินเตอร์เนตเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ประเทศต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวได้เข้ามามีบทบาทในสังคมไทยมากขึ้น ซึ่งหากมีการป้องกันเสียก่อนในเบื้องต้นก็จะง่ายแก่การตรวจสอบและควบคุมอันจะนำมาซึ่งความสงบเรียบร้อยของสังคมได้เป็นอย่างดี