Abstract:
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะศึกษาถึงผลของวิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวของสตรีที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งจะเป็นสตรีที่ใช้แรงงานไร้ฝีมือ ว่ามีปัจจัยใดที่ก่อให้เกิดผลกระทบกับความสัมพันธ์ในครอบครัวและมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ในช่วงก่อนและช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณและทางมานุษยวิทยา โดยทำการศึกษาสตรีที่มีครอบครัวแล้ว และเป็นแรงงานไร้ฝีมือที่เข้ามาทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมตั้งแต่กลางปี 2540 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน โดยเลือกทำการศึกษาในจังหวัดสมุทรปราการ โดยจะทำการศึกษาสตรีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 100 คน โดยใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) เป็นเครื่องมือในการวิจัย และผู้วิจัยได้เลือกสุ่มตัวอย่างสตรีจำนวน 10 คน เพื่อทำการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) สำหรับสมมติฐานการวิจัยที่ตั้งขึ้นมีด้วยกัน 9 ข้อ ซึ่งจากการสำรวจและพิสูจน์สมมติฐานมีผลปรากฎดังต่อไปนี้ 1. แรงงานสตรีที่ระดับการศึกษายิ่งตํ่ามากเพียงไรจะยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ในครอบครัวมากขึ้นเพียงนั้น ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติฐานข้อนี้ 2 .แรงงานสตรีที่อายุยิ่งน้อยมากเพียงไรจะยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ในครอบครัวมากขึ้นเพียงนั้น ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติฐานข้อนี้ 3. แรงงานสตรีที่ระยะเวลาที่สมรสยิ่งสั้นเพียงไรก็จะยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ในครอบครัวมากขึ้นเพียงนั้น ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติฐานข้อนี้ 4. แรงงานสตรีที่ยิ่งมีรายได้ตํ่าลงเพียงไรก็จะยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ในครอบครัวมากขึ้นเพียงนั้น ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติฐานข้อนี้ 5.แรงงานสตรีที่ครอบครัวยิ่งมีการขาดแคลนสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตมากเพียงไรจะยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ในครอบครัวมากขึ้นเพียงนั้น ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติฐานข้อนี้ 6. แรงงานสตรีที่ครอบครัวยิ่งมีภาระหนี้สินมากเพียงไรจะยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ในครอบครัวมากขึ้นเพียงนั้น ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติ ฐานข้อนี้ 7. แรงงานสตรีที่ยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงบทบาทของภรรยาสูงมากเพียงไรจะยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ในครอบครัวมากขึ้นเพียงนั้น ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติฐานข้อนี้ 8. แรงงานสตรีที่ยิ่งมีความเครียดภายในครอบครัวสูงมากเพียงไรจะยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ในครอบครัวมากขึ้นเพียงนั้น ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติฐานข้อนี้ 9. แรงงานสตรีที่ยิ่งขาดการสื่อสารภายในครอบครัวมากเพียงไรจะยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ในครอบครัวมากขึ้นเพียงนั้น ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติฐานข้อนี้