Abstract:
การวัดระดับธัยรอยด์ฮอร์โมนเป็นขั้นตอนที่จําเป็นการวินิจฉัยภาวะต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ ซึ่งใน ปัจจุบันได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพให้ดีขึ้นกว่าเดิมเป็นอันมาก พบว่ามีการเลือกใช้การวัดดังกล่าวกัน หลายรูปแบบ ได้แก่ การวัดธัยรอยด์ฮอร์โมนทั้งในรูป total form หรือ free form การเลือกตรวจกตัวจึงจะ เหมาะสม ทั้งนี้เนื่องจากยังไม่มีแนวทางที่เป็นที่ตกลงกันโดยทั่วไปว่ารูปแบบใดเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับ ผู้ป่วยในประเทศไทย ถึงแม้ในต่างประเทศเองหัวข้อดังกล่าวก็ยังเป็นสิ่งที่ยังถกเถียงกันอยู่ การวิจัยนี้เป็นการประเมินประสิทธิภาพการตรวจระดับธัยรอยด์ฮอร์โมนว่ารูปแบบใดเป็นวิธีที่ เหมาะสมในการวินิจฉัยภาวะต่อมธัยรอยด์เป็นพิษในกรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก โดยการคัดเลือกผู้ป่วยที่มี จํานวน 452 คนประกอบด้วยผู้ป่วยที่มีภาวะต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ จํานวน 206 คน ผู้ป่วยปกติ 207 คน ผู้ป่วย subclinical hyperthyroid 30 คน ผู้ป่วย subclinical hypothyroid 1 คน และผู้ป่วยที่มีภาวะต่อมธัย รอยด์ทํางานต่ํา 8 คน มาวัดระดับ total form ของธัยรอยด์ฮอร์โมนทั้ง thyroxine และ triiodothyronine free form ของธัยรอยด์ฮอร์โมน และ thyroid stimulating hormone ด้วยวิธี electrochemiluminescent assay แล้วนํามาเปรียบเทียบกับวิธีมาตรฐาน (gold standard) คือ FT3, FT4 และ TSH ในแง่ความไว (sensitivity), ความจําเพาะ (specificity), positive predictive value, negative predictive value, false positive, false negative และ efficiency of test ซึ่งพบว่ามีอุบัติการณ์ของภาวะ T3 toxicosis สูงถึง 16.02% 14 toxicosis 2.91% สําหรับการวินิจฉัยภาวะต่อมธัยรอยด์เป็นพิษนั้น การเลือก FT3 กับ TSH เป็นวิธีที่ใกล้เคียงกับ gold standard มากที่สุดคือค่าความไว 97.57% ค่าความจําเพาะ 100% เมื่อเปรียบ เทียบกับการเลือก FT4 กับ TSH ซึ่งมีค่าความไว 83.98% ความจําเพาะ 100% การเลือก total form ทั้ง 2 ตัว คือ T3 และ T4 ซึ่งมีค่าความไว87.38% และความจําเพาะ 97.97% จากการศึกษานี้สามารถกําหนดแนวทางในการวินิจฉัยภาวะต่อมธัยรอยด์เป็นพิษสําหรับประเทศ ไทยว่า ควรเลือกตรวจด้วย FT3, TSH เป็นวิธีที่เหมาะสมในการวินิจฉัยภาวะต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ ใน กรณีที่เป็นผู้ป่วยนอก