Abstract:
งานวิจัยเรื่องปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับผู้นำในการนำกิจกรรมการพัฒนาชุมชนมีวัตถุประสงค์เพื่อจะศึกษาถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผู้นำในการนำกิจกรรมการพัฒนาชุมชน ว่ามีปัจจัยใดที่ก่อให้เกิดความสามารถในการเป็นผู้นำกิจกรรมการพัฒนาชุมชน การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณและงานวิจัยสนามทางมานุษยวิทยา โดยทำการศึกษาหัวหน้าครัวเรือนที่เคยเข้ามีส่วนร่วมในกิจกรรมการพัฒนาชุมชน และเลือกทำการศึกษาในอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยจะทำการศึกษาหัวหน้าครัวเรือนตัวอย่าง จำนวน 300 คน โดยใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) และผู้วิจัยได้เลือกสุ่มหัวหน้าครัวเรือน จำนวน 10 คน เพื่อทำการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth interview) สำหรับสมมติฐานการวิจัยครั้งนี้มี 9 ข้อด้วยกัน ซึ่งจากการสำรวจและพิสูจน์สมมติฐาน มีผลปรากฎดังนี้ 1. เพศชายมีความสามารถในการเป็นผู้นำกิจกรรมการพัฒนาชุมชนมากกว่าเพศหญิง ซึ่งข้อมูลจากการศึกษาปฏิเสธสมมติฐานข้อนี้ 2. คนที่มีอายุมากมีความสามารถในการเป็นผู้นำกิจกรรมการพัฒนาชุมชนมากกว่าคนที่มีอายุน้อย ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติฐานข้อนี้ 3. คนที่มีการศึกษาสูง มีความสามารถในการเป็นผู้นำกิจกรรมการพัฒนาชุมชนมากกว่าคนที่มีการศึกษาน้อย ซึ่งข้อมูลจากการศึกษาปฏิเสธสมมติฐานข้อนี้ 4. อาชีพที่แตกต่างกันทำให้มีความสามารถในการเป็นผู้นำกิจกรรมการพัฒนาชุมชนแตกต่างกัน ซึ่งข้อมูลจากการศึกษาปฏิเสธสมมติฐานในข้อนี้ 5. คนที่มีรายได้สูงมีความสามารถในการเป็นผู้นำกิจกรรมการพัฒนาชุมชนมากกว่าคนที่มีรายได้น้อย ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติฐานข้อนี้ 6. คนที่มีสมาชิกในครอบครัว จำนวนน้อยมีความสามารถในการเป็นผู้นำกิจกรรมการพัฒนาชุมชนมากกว่าคนที่มีจำนวนสมาชิกในครอบครัวมาก ซึ่งข้อมูลจากการศึกษา ปฏิเสธสมมติฐานข้อนี้ 7. คนที่เข้ารับการฝึกอบรมมากมีความสามารถในการเป็นผู้นำกิจกรรมการพัฒนาชุมชนมากกว่าคนที่เข้าร่วมการฝึกอบรมน้อย ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติฐานข้อนี้ 8. คนที่มีประสบการณ์การเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาชุมชนมากมีความสามารถในการเป็นผู้นำกิจกรรมการพัฒนาชุมชนมากกว่าคนที่มีประสบการณ์การเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาชุมชนน้อย ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติฐานข้อนี้ 9. ผู้ที่เห็นประโยชน์ของโครงการพัฒนาชุมชนมากจะมีความสามารถในการเป็นผู้นำกิจกรรมการพัฒนาชุมชนมากกว่าผู้ที่เห็นประโยชน์ของโครงการพัฒนาชุมชนน้อย ซึ่งข้อมูลจากการศึกษายืนยันสมมติฐานข้อนี้ผลการวิจัย พบ่ว่า ยอมรับสมมติฐาน 5 ข้อ และปฏิเสธสมมติฐาน 4 ข้อ