Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเกษตรกรรมพืชไร่ในจังหวัดราชบุรี โดยพิจารณาปัจจัยที่มีผลต่อการทำการเกษตร แล้วนำปัจจัยมาคัดเลือกหาความสัมพันธ์โดยการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธุ์ (Correlation Coeffcient) ระหว่างปัจจัยและผลผลิตพืชแต่ละประเภท เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ในการวิเคราะห์หาพื้นที่ที่เหมาะสมในการพัฒนาเกษตรกรรมพืชไร่ ผลการวิจัยพบว่าพืชไร่แต่ละประเภทมีความต้องการปัจจัยที่ต่างกัน คือ ปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการเพาะปลูกอ้อย คือ ความเหมาะสมของดิน ความลาดชัน แหล่งน้ำ พื้นที่ชลประทานและการใช้ประโยชน์ที่ดิน ปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการเพาะปลูกมันสำปะหลังและมันเทศ คือ ความเหมาะสมของดิน ความลาดชัน แหล่งน้ำ พื้นที่ชลประทานและการใช้ประโยชน์ที่ดิน ปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการเพาะปลูกฝ้าย ถั่วเขียว ถั่วลิสง ถั่วเหลือง คือ ความเหมาะสมของดิน การใช้ประโยชน์ที่ดินและปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย ปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการเพาะปลูกงา คือ ความเหมาะสมของดิน ความลาดชัน การใช้ประโยชน์ที่ดินและปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย ปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการเพาะปลูกข้าวโพด คือ ความเหมาะสมของดิน ความลาดชัน พื้นที่ชลประทานและการใช้ประโยชน์ที่ดิน และปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการเพาะปลูกสับปะรด คือ ความเหมาะสมของดิน แหล่งน้ำและการใช้ประโยชน์ที่ดิน จากการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยระบบสารสนเทศ (GIS) พบว่า พื้นที่ที่เหมาะสมในการเพาะปลูกพืชไร่แต่ละประเภทมีดังนี้ 1) อ้อย ได้แก่ อำเภอจอมบึงและบ้านโป่ง 2) มันสำปะหลัง ได้แก่ อำเภอสวนผึ้ง 3) มันเทศ ได้แก่ อำเภอจอมบึง 4) ฝ้าย ได้แก่ อำเภอสวนผึ้ง 5) ถั่วเขียว ได้แก่ อำเภอสวนผึ้ง 6) ถั่งลิสง ได้แก่ อำเภอจอมบึงและสวนผึ้ง 7) ถั่วเหลือง ได้แก่ อำเภอสวนผึ้ง 8) งา ได้แก่ อำเภอจอมบึง 9) ข้าวโพด ได้แก่ อำเภอบ้านโป่ง 10) สับปะรด ได้แก่ กิ่งอำเภอบ้านคา และพื้นที่ไม่เหมาะสมต่อการเกษตรส่วนมากอยู่ในอำเภอปากท่อ ซึ่งควรจัดเป็นพื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์หรือเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ พืชไร่หลักที่ให้ผลผลิตและสร้างรายได้สูงให้กับเกษตรกร คือ อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพดและสับปะรด แต่เนื่องจากพืชหลักดังกล่าวมีอายุการเก็บเกี่ยวที่ค่อนข้างนาน จึงเสนอแนะให้ปลูกพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นมาปลูกเป็นพืชแซม เพื่อเพิ่มรายได้และใช้ประโยชน์ที่ดินสูงสุด