Abstract:
การศึกษานี้เป็นการประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในการกำหนดแฟคเตอร์ของการใช้น้ำบาดาลในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้น้ำบาดาลจาก หน่วยงานต่างๆ ทั้งที่เป็นหน่วยงานราชการและหน่วยงานเอกชน ได้แก่การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค ประปาสัมปทาน ประปาหมู่บ้าน บ่อน้ำบาดาลเอกชน และบ่อน้ำบาดาลส่วนตัว โดยประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ในการคำนวณปริมาณการใช้น้ำบาดาลระดับตำบลรวม 663 ตำบล ให้มีความถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว ในการศึกษานี้แบ่งลักษณะการใช้น้ำบาดาลเป็น 3 ประเภทได้แก่การใช้น้ำบาดาลเพื่ออุปโภคบริโภค การใช้น้ำบาดาลเพื่ออุตสาหกรรม และการใช้น้ำเพื่อเกษตรกรรม จากการศึกษาพบว่า ปริมาณการใช้น้ำบาดาลรวมในพื้นที่ศึกษาในปี พ.ศ. 2546 ประมาณ 1.82 ล้าน ลบ.ม./วัน คิดเป็น 662.85 ล้าน ลบ.ม./ปี มีการตรวจสอบข้อมูลปริมาณการใช้น้ำบาดาลโดยวิเคราะห์ความสัมพันธ์กับค่าระดับน้ำบาดาลของชั้นน้ำพระประแดง ชั้นน้ำนครหลวง และชั้นน้ำนนทบุรี เพื่อยืนยันข้อมูลดังกล่าว โดยข้อมูลปริมาณการใช้น้ำบาดาลดังกล่าว สามารถนำมาสร้างแผนที่การใช้น้ำบาดาลในรายประเภทการใช้น้ำ ซึ่งมีความละเอียดถึงระดับตำบล ปริมาณการใช้น้ำบาดาลที่ตรวจสอบกับค่าระดับน้ำบาดาลแล้ว จึงนำมาวิเคราะห์แฟคเตอร์ที่มีผลต่อการใช้น้ำบาดาลโดยวิธีสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ผลลัพธ์ที่ได้คือแฟคเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้น้ำบาดาลใน พื้นที่ศึกษา และวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ โดยประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในรายพื้นที่รวมและรายจังหวัด จากนั้นนำแฟคเตอร์ดังกล่าวมาหาความสัมพันธ์ของการใช้น้ำบาดาล โดยวิธีวิเคราะห์การถดถอย ผลลัพธ์คือสมการความสัมพันธ์ที่ขึ้นกับลักษณะการใช้น้ำบาดาลในรายพื้นที่รวมและรายจังหวัด การศึกษาพบว่า แฟคเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้น้ำบาดาลเพื่ออุปโภคบริโภค ประกอบด้วยแฟคเตอร์จำนวนประชากร และราคาค่าน้ำบาดาล ในรายพื้นที่และรายจังหวัด การใช้น้ำบาดาลเพื่ออุตสาหกรรม ประกอบด้วยแฟคเตอร์ จำนวนโรงงานที่ใช้น้ำบาดาล จำนวนแรงม้าที่ใช้น้ำบาดาล ผลิตภัณฑ์มวลรวมรายจังหวัดที่ใช้น้ำบาดาล และราคาค่าน้ำบาดาล ในรายพื้นที่และรายจังหวัด สำหรับการใช้น้ำบาดาลเพื่อ เกษตรกรรมประกอบด้วยแฟคเตอร์ พื้นที่เพาะปลูกที่ใช้น้ำบาดาล ผลผลิตข้าวนาปรังที่ใช้น้ำบาดาล และราคาผลผลิตข้าวนาปรังที่ใช้น้ำบาดาล ในรายพื้นที่รวม แฟคเตอร์ พื้นที่เพาะปลูกที่ใช้น้ำบาดาล ผลผลิตข้าวนาปรังที่ใช้น้ำบาดาล ในรายจังหวัด ซึ่งสมการที่ได้นี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อวางแผนการจัดการน้ำบาดาลให้ ยั่งยืนในพื้นที่นี้ต่อไป