Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งที่จะศึกษาถึงหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของรัฐต่างๆ ที่มีต่อธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศโดยเน้นไปที่รัฐลงนามแต่ยังไม่ให้สัตยาบัน และรัฐที่ไม่เป็นภาคี รวมถึงประเทศไทยในฐานะรัฐลงนาม เนื่องจากธรรมนูญกรุงโรมมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ การนำตัวบุคคลผู้ที่กระทำอาชญากรรมร้ายแรงอันส่งผลกระทบต่อประชาคมระหว่างประเทศมารับผิดในการกระทำของตนโดยไม่ยอมรับการอ้างความคุ้มกันใดๆ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ความคุ้มครองและเยียวยาแก่ผู้เสียหายจากการกระทำดังกล่าว ดังนั้นศาลอาญาระหว่างประเทศจึงกำหนดหลักการใช้เขตอำนาจต่อรัฐดังกล่าวด้วย จากการศึกษาพบว่ารัฐและคนชาติของรัฐลงนามแต่ยังไม่ให้สัตยาบันและรัฐที่ไม่เป็นภาคี รวมถึงประเทศไทยและคนไทยต่างก็ได้รับผลกระทบจากการมีผลบังคับใช้ธรรมนูญกรุงโรมด้วย โดยอาจตกอยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลได้หากคณะมนตรีความมั่นคงเสนอสถานการณ์ที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลขึ้นสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากรัฐนั้นก่อน หรือกรณีที่มีการกระทำความผิดในดินแดนของรัฐภาคี หรือมีการยอมรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ ดังนั้นประเทศไทยหลังจากที่ได้ลงนามธรรมนูญกรุงโรมแล้ว จึงต้องพิจารณากฎหมายภายในที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องรองรับพันธกรณีที่จะเกิดขึ้นหากให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคีในอนาคต และเพื่อให้ศาลไทยสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดนั้นได้ และใช้เป็นข้อคัดค้านการใช้เขตอำนาจและการรับคดีไว้พิจารณาของศาลอาญาระหว่างประเทศได้ ส่วนคนไทยจะได้รับผลกระทบจากการใช้เขตอำนาจศาลได้เพราะศาลอาญาระหว่างประเทศไม่ยอมรับการอ้างความคุ้มกันใดๆ ดังนั้นพระมหากษัตริย์หรือทหาร เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการต่างๆ ก็อาจได้รับผลกระทบนี้ด้วย ดังนั้นประเทศไทยต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากสถานะที่เป็นรัฐลงนามในปัจจุบัน และสถานะรัฐภาคีหากมีการให้สัตยาบันในอนาคต