Abstract:
ไวรัสบีเค เป็นไวรัสในวงศ์โพลิโอมาไวรัส ซึ่งเป็นไวรัสที่มีสารพันธุกรรมชนิดดีเอ็นเอสายคู่ ความสำคัญของไวรัสนี้สามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ภายหลังการปลูกถ่ายอวัยวะโดยเฉพาะการปลูกถ่ายไต ทำให้เกิดภาวะไตอักเสบจากไวรัสบีเค และทำให้ไตวายภายหลังการปลูกถ่ายไตได้ โดยคำแนะนำในการรักษาปัจจุบันนั้นคือการลดระดับยากดภูมิคุ้มกันเป็นหลัก ดังนั้นการตรวจคัดกรองก่อนภาวการณ์ติดเชื้อไวรัสบีเคก่อนที่จะมีการลุกลาม และมีการอักเสบของเนื้อไตจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม การตรวจหาไวรัสบีเคมีความสิ้นเปลืองงบประมาณมาก เนื่องจากมีความจำเป็นต้องตรวจต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ประเทศไทย การศึกษานี้จึงเป็นการศึกษาที่จะประเมินความชุกของการติดเชื้อไวรัสบีเค ความเสี่ยงของการติดเชื้อ และแนวทางในการรักษาการติดเชื้อไวรัสบีเคภายหลังการปลูกถ่ายไตที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งจากการศึกษาพบว่า อัตราการตรวจคัดกรองหาไวรัสบีเคภายหลังการปลูกถ่ายมีเพียงร้อยละ 54.8 และพบความชุกของการติดเชื้ออยู่ที่ร้อยละ 26.8 และพบภาวะไตอักเสบจากไวรัสบีเคร้อยละ 6.5 และพบว่าการใช้ยากลุ่ม calcineurin inhibitor เป็นปัจจัยเดียวที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดการติดเชื้อไวรัสบีเคอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ ในด้านการรักษา การลดระดับยากดภูมิคุ้มกัน ร่วมกับกับการให้ยา leflunomide กับ ciprofloxacin เป็นการรักษาหลักที่แพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เลือกใช้ในการรักษาไวรัสบีเค โดยไม่พบภาวการณ์เสียอวัยวะภายหลังการปลูกถ่ายภายหลังการติดตาม 2 ปี ดังนั้นการตรวจคัดกรองหาการติดเชื้อไวรัสบีเค เพื่อวินิจฉัยการติดเชื้อไวรัสบีเค ถือเป็นสิ่งสำคัญที่แพทย์ควรตระหนักถึง และการลดระดับยากดภูมิคุ้มกัน ร่วมกับการให้ยา ciprofloxacin และ leflunomide อาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาการติดเชื้อไวรัสบีเค โดยได้ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ