Abstract:
วิทยานิพนธ์นี้มุ่งศึกษาบทบาทและความสำคัญของบทแหล่เทศน์มหาชาติในฐานะวรรณคดีประกอบพิธีกรรมในสังคมไทยร่วมสมัย โดยศึกษาจากข้อมูลวีดิทัศน์มหาชาติในภาคกลางจำนวน 300 ชุด เป็นวีดิทัศน์การเทศน์แบบเรียงกัณฑ์ทั้ง 13 กัณฑ์ จำนวน 260 ชุด และเป็นวิดิทัศน์การเทศน์มหาชาติประยุกต์ซึ่งเล่าเรื่องสรุปความจำนวน 40 ชุด นอกจากนี้ยังเก็บข้อมูลภาคสนามจากการเทศน์มหาชาติในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 10 ครั้ง ระหว่าง พ.ศ. 2559-2562
ผลการศึกษาพบว่าการเทศน์มหาชาติในปัจจุบันยังคงสืบทอดคติความเชื่อเรื่องคาถาพัน และมุ่งถ่ายทอดเวสสันดรชาดกเพื่อนำเสนอแนวคิดเรื่องทานบารมี แต่องค์ประกอบสำคัญของพิธีกรรมมีความเปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ ระยะเวลาการจัดเทศน์ลดลง โอกาสในการจัดเทศน์มีความหลากหลายมากขึ้น และเกิดผู้ฟังกลุ่มใหม่ซึ่งมาจากหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน ความเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้พระนักเทศน์มหาชาติต้องลดเนื้อหาที่นำมาเทศน์ โดยจะเลือกเฉพาะเนื้อหาตอนเด่นมาถ่ายทอด มีทั้งตอนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทานบารมี เช่น การบำเพ็ญทาน การแสดงความเศร้าโศก และการพรรณนาเครื่องทาน และตอนที่เป็นรายละเอียดซึ่งเน้นสร้างสีสันและเปิดโอกาสให้ผู้ฟังได้ทำบุญ เช่น การพรรณนาธรรมชาติ การแสดงอารมณ์ขัน การให้พร ตัวบทที่ใช้มีทั้งบทแหล่ในซึ่งแต่งเป็นร่ายยาว และบทแหล่นอกซึ่งแต่งเป็นกลอนประกอบกัน โดยมีตัวบทสำคัญคือร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก ลักษณะเช่นนี้สะท้อนว่าวิธีการถ่ายทอดแบบมุขปาฐะและขั้นตอนในพิธีกรรมมีส่วนกำกับการถ่ายทอดบทแหล่เทศน์มหาชาติ
ในการถ่ายทอดบทแหล่เทศน์ มีการประสานวรรณศิลป์กับศิลปะ 3 ประเภท ได้แก่ คีตศิลป์ ศิลปะการสื่อสารการแสดง และวาทศิลป์ การประสานศิลป์เหล่านี้ช่วยให้เล่าเรื่องได้อย่างราบรื่น เน้นเนื้อหาตอนเด่น และช่วยเสริมบรรยากาศของพิธีกรรมให้สอดคล้องกับอารมณ์ในเรื่อง เอื้อให้เทศน์ได้สอดคล้องกับระยะเวลา และเปิดโอกาสให้พระผู้เทศน์อธิบายเนื้อความของเวสสันดรชาดกให้เข้ากับประเด็นต่าง ๆ ที่มีอยู่ในสังคมร่วมสมัย
การใช้บทแหล่เทศน์มหาชาติข้างต้นสะท้อนให้เห็นบทบาทและความสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ บทบาทที่มีต่อพระพุทธศาสนา คือช่วยให้เผยแผ่เวสสันดรชาดกได้อย่างกว้างขวาง สร้างศรัทธาอย่างลึกซึ้ง และถ่ายทอดคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่างมีสุนทรียะ บทบาทที่มีต่อวรรณคดีไทยและขนบวรรณคดีไทย คือช่วยเผยแพร่วรรณคดีไทยเป็นบทแหล่นอก และใช้ขนบวรรณคดีไทยผ่านการสร้างสรรค์บทแหล่ใหม่ ๆ และคำบรรยายร้อยแก้ว และบทบาทที่มีต่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่สังคม กล่าวได้ว่าบทแหล่เทศน์มหาชาติเป็นมรดกวัฒนธรรมที่สืบทอดมาจากอดีตและยังดำรงอยู่ในสังคมไทยร่วมสมัยอย่างน่าสนใจ