Abstract:
งานวิจัยนี้ใช้เครื่องสแกนเลเซอร์สามมิติภาคพื้นดิน (3D Terrestrial Laser Scanner) ศึกษาติดตามการเปลี่ยนแปลงสัณฐานวิทยาของร่องธารและวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางกายภาพกับการชะล้างแบบร่องธาร ผู้วิจัยติดตามการเปลี่ยนแปลงของร่องธารบนพื้นที่ลาดชันระหว่าง 30%-60% ในสวนปาล์มและสวนยางพารา ในอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ทั้งสิ้น 6 ร่องธาร โดยใช้เครื่องสแกนเลเซอร์ภาคพื้นดินเก็บข้อมูลลักษณะสัณฐานของร่องธารแบบสามมิติ ครอบคลุมพื้นที่ 2 x 5 ตารางเมตร ระหว่างเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม พ.ศ. 2561 จำนวน 8 ครั้ง และนำมาสร้างแบบจำลองระดับความสูงภูมิประเทศเชิงเลข (Digital Elevation Model : DEM) ความละเอียดจุดภาพ 1 เซนติเมตร ผลการวิจัยพบว่าร่องธารในสวนยางพาราสูญเสียดินสุทธิมากกว่าร่องธารในสวนปาล์มน้ำมัน ร่องธารในสวนยางพารามีปริมาณการสูญเสียดินสุทธิเท่ากับ 1,234.17 (Rubber A), 1,508.02 (Rubber B) และ 1,290.05 (Rubber C) ลบ.ซม. ในขณะในสวนปาล์มน้ำมัน มีปริมาณการสูญเสียดินสุทธิเท่ากับ 1,244.07 (Palm A) และ 1,203.97 (Palm B) ลบ.ซม. และมี 1 แห่ง มีปริมาณดินสุทธิเพิ่มขึ้น 0.63 (palm C) ลบ.ซม. ร่องธารในสวนยางพารามีการสูญเสียดินมากกว่าในสวนปาล์ม เนื่องจากปาล์มมีระบบรากฝอยกระจายอยู่บริเวณผิวดินลดความรุนแรงของกระแสน้ำได้ต่างจากระบบรากแก้วของยางพาราที่มีขนาดรากใหญ่และลึกลงใต้ผิวดินเมื่อเกิดการไหลบ่าของน้ำหน้าดินจึงเกิดการสูญเสียดินมากกว่า นอกจากนี้ร่องธารที่มีการสูญเสียหน้าดินสุทธิสูงสุดเป็นร่องธารที่มีดัชนีกำลังการไหลของน้ำ (Stream Power Index: SPI) สูงสุดทั้งในสวนยางพาราและสวนปาล์ม และยังพบว่าปริมาณการสูญเสียหน้าดินสัมพันธ์เชิงบวกกับจำนวนวันฝนตก (r = 0.69-0.99) และปริมาณฝนรวม (r = 0.68-0.99) ค่อนข้างสูง ยกเว้นร่องธาร A ในสวนปาล์มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดสัมพันธ์เชิงบวกกับความเข้มฝนสูงสุด (r = 0.98)