Abstract:
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความหนาแน่นแร่ธาตุของรอยผุระยะแรกด้านประชิด ภายหลังการใช้น้ำยาบ้วนปากโซเดียมฟลูออไรด์ร้อยละ 0.05 ทุกวันเปรียบเทียบกับน้ำยาบ้วนปากโซเดียมฟลูออไรด์ร้อยละ 0.2 สัปดาห์ละครั้ง การศึกษานี้เป็นการศึกษาแบบไขว้ อำพราง 2 ฝ่าย แบ่งการทดลองเป็น 3 ช่วง ช่วงละ 28 วัน ระยะพักระหว่างการทดลอง 14 วัน ทำการสร้างรอยผุจำลองบนชิ้นฟันที่ตัดจากด้านประชิดของฟันกรามน้อยจำนวน 18 ซี่ (ชิ้นฟัน 3 ชิ้นจากฟัน 1 ซี่) อาสาสมัครจำนวน 18 คน ใส่เครื่องมือจัดฟันติดแน่นที่มีชิ้นฟันตัวอย่างที่มาจากฟันซี่เดียวกันทั้ง 3 ช่วง แบ่งอาสาสมัครเข้ากลุ่มการทดลอง และใช้น้ำยาบ้วนปากดังต่อไปนี้ ปริมาณ 10 มิลลิลิตร นาน 1 นาที (1) น้ำยาบ้วนปากปราศจากฟลูออไรด์ (2) น้ำยาบ้วนปากโซเดียมฟลูออไรด์ร้อยละ 0.05 ทุกวัน (3) น้ำยาบ้วนปากโซเดียมฟลูออไรด์ร้อยละ 0.2 สัปดาห์ละครั้งร่วมกับน้ำยาบ้วนปรากปราศจากฟลูออไรด์ในวันที่เหลือ วัดความหนาแน่นแร่ธาตุของชิ้นฟันด้วยเครื่องไมโครคอมพิวเตดโทโมกราฟี พบว่าค่าความหนาแน่นแร่ธาตุเฉลี่ยทุกกลุ่มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) โดยค่าร้อยละการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นแร่ธาตุเฉลี่ยของกลุ่มน้ำยาบ้วนปากโซเดียมฟลูออไรด์ทั้ง 2 ความเข้มข้นมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) แต่ไม่พบความแตกต่างระหว่างน้ำยาบ้วนปากทั้ง 2 ชนิด (p=0.205) การใช้น้ำยาบ้วนปากโซเดียมฟลูออไรด์ร้อยละ 0.2 สัปดาห์ละครั้ง จะเพิ่มค่าร้อยละการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นแร่ธาตุเฉลี่ยในบริเวณผิวนอก ระดับชั้น 0-40 ไมโครเมตร ในขณะที่การใช้น้ำยาบ้วนปากโซเดียมฟลูออไรด์ร้อยละ 0.05 ทุกวัน ช่วยเพิ่มค่าร้อยละการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นแร่ธาตุเฉลี่ยในระดับชั้นที่ลึกกว่า จากการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการใช้น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ทั้ง 2 ความเข้มข้นที่มีความถี่การใช้แตกต่างกัน ทำให้เกิดการคืนกลับแร่ธาตุของรอยผุระยะแรกด้านประชิดไม่แตกต่างกัน แต่ความลึกของการคืนกลับแร่ธาตุแตกต่างกัน