Abstract:
การศึกษาทางคลินิกครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสำเร็จของการรักษาฟันน้ำนมโดยวิธีพัลเพคโตมีระหว่างซิงค์ออกไซด์ยูจินอลกับ แคลเซียมไฮดรอกไซด์/ไอโอโดฟอร์มเพสด์ (Vitapex) ที่ 6 และ 12 เดือน ในเด็กอายุ 3 ปี 4 เดือน ถึง 7 ปี 9 เดือน อายุเฉลี่ย 5.6+-1.2 ปี จำนวน 42 คน โดยคัดเลือกฟันกรามน้ำนมล่างที่ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดจำนวน 54 ซี่ การกำหนดวัสดุอุดคลองรากฟันให้ฟันตัวอย่างใช้วิธีสุ่ม และ ประเมินผลการรักษาทางคลินิกและภาพรังสี ที่ 6 และ 12 เดือน วิเคราะห์ความสัมพันธ์ผลการรักษาและวัสดุอุดคลองรากฟันทั้งสองชนิดด้วยสถิติไคสแควร์เทสต์ (Chi-square test) ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 พบว่า ที่ 6 และ 12 เดือน ฟันตัวอย่างทุกซี่ได้รับการตรวจทางคลินิกและภาพรังสี ซึ่งผลการรักษาทางคลินิกที่ระยะเวลา 6 และ 12 เดือน กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการอุดคลองรากฟันด้วย Vitapex ตรงตามเกณฑ์ความสำเร็จทางคลินิกเป็นร้อยละ 100 และร้อยละ 96.3 และกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการอุดคลองรากฟันด้วยซิงค์ออกไซด์ยูจินอล เป็นร้อยละ 96.3 และร้อยละ 92.6 ผลการรักษาทางภาพรังสีที่ 6 และ 12 เดือน ของกลุ่ม Vitapex ตรงตามเกณฑ์ความสำเร็จทางภาพรังสีเป็นร้อยละ 77.8 และร้อยละ 88.9 กลุ่มซิงค์ออกไซด์ยูจินอล เป็นร้อยละ 48.1 และร้อยละ 85.2 ผลการรักษาทางคลินิกและภาพรังสีที่ 6 และ 12 เดือน กลุ่ม Vitapex ตรงตามเกณฑ์ความสำเร็จทางคลินิกและภาพรังสีที่เป็นร้อยละ 77.8 และ ร้อยละ 88.9 ตามลำดับ และกลุ่มซิงค์ออกไซด์ยูจินอลเป็นร้อยละ 48.1 และร้อยละ 81.5 ตามลำดับ สรุปผลการรักษาฟันกรามน้ำนมโดยวิธีพัลเพคโตมีระหว่างซิงค์ออกยูจินอลและแคลเซียมไฮดรอกไซด์/ไอโอโดฟอร์มเพสต์ (Vitapex) ทางคลินิกและภาพรังสีที่ 6 และ 12 เดือน ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 (p= 0.059, p=0.831)