Abstract:
การศึกษาเรื่อง “วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่กับการอนุรักษ์และพัฒนานาฏศิลป์ล้านนา” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางอนุรักษ์และพัฒนาการแสดงนาฏศิลป์แบบล้านนาของวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ มีขอบเขตของการวิจัย คือ ศึกษารูปแบบการฟ้อนแบบนาฏศิลป์ล้านนาในสายคุ้มพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ที่วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ได้รับถ่ายทอด และการพัฒนาชุดการแสดงทั้ง 3 ช่วง ตั้งแต่ พ.ศ. 2514 จนถึง พ.ศ. 2561 รวมระยะเวลา 47 ปี ด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วนำมาวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล จัดลำดับและเรียบเรียงข้อมูล และนำเสนอผลการวิจัย
ผลการวิจัยพบว่า วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่เป็นสถาบันการศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติ เป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองประจำภาคเหนือที่ “สร้างศาสตร์แห่งศิลป์” ด้วยการดำเนินการตามวิสัยทัศน์และพันธกิจที่กำหนดเป้าหมายสำคัญใน 2 ประเด็น คือ การอนุรักษ์และพัฒนา ด้วยการการสืบสาน สร้างสรรค์ และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมผ่านนโยบายการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา
นโยบายการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษานั้นในด้านการอนุรักษ์และพัฒนาของวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่จะให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดองค์ความรู้นาฏศิลป์ล้านนา เริ่มต้นจากการเชิญช่างฟ้อนที่เคยอยู่ในคุ้มพระราชชายาเจ้าดารารัศมี และช่างฟ้อนที่มีความสามารถเข้ามาถ่ายทอดรูปแบบการฟ้อนรำให้กับนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ แล้วนำนาฏศิลป์ล้านนาที่ได้รับถ่ายทอดมาบรรจุไว้ในหลักสูตร ต่อมาเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปคณาจารย์จึงได้มีการสร้างสรรค์นาฏศิลป์ล้านนาชุดใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมแล้วนำการแสดงนาฏศิลป์ล้านนาออกเผยแพร่ สู่สาธารณชนในโอกาสสำคัญ ๆ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา อีกทั้งการจัดโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เพื่อให้ครู อาจารย์สร้างสรรค์นาฏศิลป์ล้านนาชุดใหม่ ๆ โดยผ่านกระบวนการวิจัยสร้างสรรค์ สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการส่งเสริมให้นักศึกษาสร้างสรรค์นาฏศิลป์ล้านนาในรายวิชาศิลปนิพนธ์ ถือเป็นการพัฒนา ต่อยอดองค์ความรู้เดิมให้มีความแปลกใหม่ ทันสมัยเข้ากับยุคสมัย แต่ยังคงรักษาของเดิมไว้ไม่ให้สูญหาย นอกจากนี้ยังมีการนำนาฏศิลป์ล้านนาออกถ่ายทอดให้กับสถานศึกษาอื่น ๆ เพื่อเป็นการอนุรักษ์นาฏศิลป์ล้านนาให้คงอยู่สืบไป
วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่จึงเป็นองค์กรทางด้านศิลปวัฒนธรรม ซึ่งมีพันธกิจสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้มีการสืบทอดต่อไปยังอนาคต ด้วยการสร้างคน สร้างศาสตร์ และบริการสังคม อีกทั้งองค์ความรู้เดิมมาพัฒนาเพื่อสนองการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง