Abstract:
การก่อสร้างระบบโครงสร้างสำเร็จรูป เป็นทางเลือกหนึ่งที่เข้ามามีบทบาท และช่วยทำให้การก่อสร้างมีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้ระบบก่อสร้างแบบดั้งเดิม และในปัจจุบัน ได้มีการประยุกต์นำระบบกล่องเข้ามาใช้ร่วมกับโครงสร้างสำเร็จรูป โดยมีจุดเด่นสำคัญ คือ ช่วยลดระยะเวลาก่อสร้างในพื้นที่ก่อสร้าง และยังเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานก่อสร้าง ทำให้ภาคเอกชน หรือผู้ประกอบการเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโต จึงมีการดำเนินกิจการผลิตอาคารโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูประบบกล่องเพื่อใช้งานทั้งในประเทศ และส่งออกเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการใช้งานที่หลากหลาย และปัจจัยมี่ต้องพิจารณามากยิ่งขึ้น
งานวิจัยฉบับนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้งาน รวมไปถึงการศึกษาทัศนคติที่มีต่ออาคารโครงสร้างสำเร็จรูประบบกล่อง โดยกลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยนี้ คือ ผู้เข้าชมงานสภาสถาปนิก’19 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 14-17 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี จำนวน 400 ตัวอย่าง เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม จากนั้นจึงนำข้อมูลที่รวบรวมได้ มาวิเคราะห์เชิงสถิติ สรุปผล และอภิปรายผล
ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ยังไม่มีแผนใช้งานอาคารโครงสร้างสำเร็จรูประบบกล่อง คิดเป็นร้อยละ 67.00 และกลุ่มที่มีแผนใช้งาน ส่วนใหญ่มีแผนใช้ในระยะเวลา 12 เดือนขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 50.00 โดยมีวัตถุประสงค์ใช้งานในเชิงที่พักอาศัย คิดเป็นร้อยละ 60.40 กำหนดงบประมาณไว้ที่ 250,001-500,000 บาท ในขณะที่ส่วนใหญ่ คิดเป็นร้อยละ 84.75 ยังไม่เคยมีประสบการณ์การใช้งานมาก่อน นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับปัจจัยความมั่นคง และความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารในระดับสำคัญมากที่สุด มีทัศนคติต่อจุดเด่นสำคัญ เป็นอันดับ 1 คือ ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างน้อยกว่าการก่อสร้างระบบดั้งเดิม และมีทัศนคติต่อจุดด้อยสำคัญ อันที่ 1 คือ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการขนส่ง
จากการอภิปรายผล ปัจจัยด้านราคา เป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้งานอาคารโครงสร้างสำเร็จรูประบบกล่อง เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างที่ยังไม่มีแผนใช้งานส่วนใหญ่ใช้เป็นเกณฑ์ในการเปรียบเทียบเลือกผู้ประกอบการ และการควบคุมงบประมาณก่อสร้าง ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีนัยสำคัญทางสถิติ รวมถึงการให้ความสำคัญกับโปรโมชั่นส่วนลดเงินสด ซึ่งปัจจัยทั้งหมดสอดคล้องกับงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น นอกจากนี้ ด้านช่องทางที่กลุ่มตัวอย่างใช้ในการรับรู้ข้อมูล หรือใช้ในการสืบค้นข้อมูล ส่วนใหญ่จะเป็นช่องทางแบบออฟไลน์ เช่น งานมหกรรม หรือสอบถามข้อมูลจากพนักงานขายประจำอาคารตัวอย่าง ดังนั้น ภาคเอกชน หรือผู้ประกอบการสามารถใช้ช่องทางแบบออนไลน์ ในการสื่อสารไปยังผู้บริโภคได้อีกมาก เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และเห็นถึงศักยภาพของการก่อสร้างระบบสำเร็จรูปมากขึ้น