Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบที่มีต่อมหาวิทยาลัยเอกชนไทยในอนาคต ประเมินศักยภาพความพร้อมของมหาวิทยาลัยเอกชนไทยสู่ตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ และนำเสนอรูปแบบกระบวนการแปลงสภาพองค์การสู่ตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเอกชนไทย ประชากรและกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยนี้แบ่งออกได้ 5 กลุ่ม รวมจำนวน 33 คน ใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง ได้แก่ 1) กลุ่มผู้ที่ให้ข้อมูลปัจจัยการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบที่มีต่อมหาวิทยาลัยเอกชนไทย ได้แก่ ผู้บริหารด้านนโยบายการอุดมศึกษา ผู้แทนคณะกรรมการองค์กรเครือข่ายการบริหารมหาวิทยาลัยเอกชนไทย อธิการบดีหรือผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยเอกชนไทย และผู้แทนองค์กรภาคธุรกิจ จำนวน 10 คน 2) กลุ่มผู้ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับจุดเน้นและการประเมินตนเอง ได้แก่ ผู้ประเมินการประกันคุณภาพระดับสถาบันตามเกณฑ์เครือข่ายการประกันคุณภาพมหาวิทยาลัยอาเซียน เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ เกณฑ์สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) และเกณฑ์สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จำนวน 8 คน 3) กลุ่มผู้ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตบัณฑิตตามจุดเน้นที่เป็นตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ ได้แก่ ผู้แทนองค์กรภาคธุรกิจ ภาครัฐ และ รัฐวิสาหกิจ จำนวน 6 คน 4) กลุ่มผู้บริหารมหาวิทยาลัยเอกชนไทยที่ทดลองใช้เครื่องมือที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น จำนวน 1 สถาบัน และ 5) กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิและผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาเอกชน จำนวน 7 คน ในการจัดทำการสนทนากลุ่ม สำหรับเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบวิเคราะห์สาระ แบบสัมภาษณ์ แบบตรวจสอบและประเมิน ซึ่งเครื่องมือวิจัยทุกชุดได้รับการตรวจสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิ ผลการศึกษาพบว่า มหาวิทยาลัยเอกชนไทยจำเป็นต้องปรับตัวโดยการแปลงสภาพองค์การไปสู่จุดเน้นหรือตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยต้องประเมินศักยภาพความพร้อมของสถาบันใน 2 ด้าน คือ บริบทและองค์ประกอบ ซึ่งจะทำทราบถึงระดับศักยภาพและความพร้อมในด้านต่าง ๆ การศึกษาพัฒนารูปแบบกระบวนการแปลงสภาพองค์การสู่ตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเอกชนไทย ประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การประเมินเพื่อการแปลงสภาพองค์การ 2) การวางแผนการแปลงสภาพองค์การ 3) การนำโปรแกรมการแปลงสภาพองค์การไปสู่การปฏิบัติ และ 4) การตรวจสอบ ติดตามการแปลงสภาพองค์การ ประกอบการใช้กลยุทธ์การดำเนินงาน (PRIME) เพื่อยกระดับและพัฒนาศักยภาพความพร้อมในมิติต่าง ๆ สู่ตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ ทั้งที่เป็นมิติความพร้อมเชิงบริบทของมหาวิทยาลัยและมิติความพร้อมเชิงองค์ประกอบให้บรรลุผลตามเป้าหมายร่วมกัน โดยรูปแบบกระบวนการแปลงสภาพองค์การสู่ตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเอกชนไทยตามผลการศึกษานี้สามารถเรียกชื่อว่า “4 Trans-Process Model”