Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาถึงอุตสาหกรรมการพนันฟุตบอลในฐานะที่เป็นสินค้าชนิดหนึ่งในตลาดที่มีพัฒนาการมายาวนานและมีความเชื่อมต่อกับองค์รวมของสังคมในหลายๆ มิติ เพื่อได้นำไปกำหนดนโยบายในการจัดการที่เหมาะสมและเป็นไปได้ ผลการศึกษาพบว่าตลาดการพนันฟุตบอลในประเทศไทยมีการขยายตัวจากการพัฒนาและขยายตัวของระบบข้อมูลข่าวสาร เป็นการเล่นพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลต่างประเทศ พนันด้วยระบบอัตราต่อรองแบบมีแต้มต่อเป็นหลัก ผลกระทบสำคัญคือปัญหาการติดการพนัน โครงสร้างอุตสาหกรรมการพนันฟุตบอลในเขตกรุงเทพมหานคร ด้านอุปทานหรือผู้ให้บริการมี 2 ลักษณะใหญ่ คือ นายหน้ารับพนันหรือปั๊วบอล และ เจ้ามือรับพนันหรือโต๊ะบอล รายได้มาจากส่วนต่างระหว่างอัตราต่อรองของผู้ที่เล่นทีมต่อและผู้ที่เล่นทีมรอง หรือเรียกว่า "ค่านํ้า" มีการประสานเครือข่ายกันเป็นลำดับชั้น เป็นกลไกในการลดความเที่ยงจากการรับพนัน ด้านอุปสงค์หรือผู้เล่น ส่วนใหญ่เริ่มเล่นเพราะชอบกีฬาฟุตบอล และเล่นพนันฟุตบอล เพราะต้องการเสี่ยงโชค ใช้หนังสือพิมพ์กีฬารายวันเป็นแหล่งข้อมูลหลัก ไม่สนใจบันทึกสถิติการเล่นพนันของตน คิดว่าตัวเองเสียพนันบอลหรือไม่สนใจว่าได้หรือเสียพนัน ใช้เงินได้จากการพนันเพื่อการบริโภคสินค้าและบริการที่ฟุ่มเฟือย เล่นพนันฟุตบอลบางนัดแต่เมื่อประสบการณ์เล่นพนันมากขึ้นจะเล่นพนันมากคู่ขึ้น ในการแทงพนันมักแทงในวงเงินประมาณ 501-5,000 บาทต่อคู่ ชำระเงินหลังทราบผลการแข่งขัน การชำระเงินโดยมากใช้เงินสด แต่กลุ่มที่ ชำระด้วยการโอนเงินส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ประกอบอาชีพแล้ว เล่นพนันด้วยรายได้ประจำ และมีการเล่นการพนันชนิดอื่นประกอบ เมื่อพิจารณาโดยรวม แม้ว่ามีผู้เล่นและผู้ให้บริการจำนวนมาก แต่ผู้ให้บริการมีการประสานกันเป็นเครือข่ายส่งผลให้โครงสร้างตลาดที่แท้จริงมีการผูกขาด โดยราคาการต่อรองที่แท้จริงถูกกำหนดจากอัตราการต่อรองในต่างประเทศ