Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความคลาดเคลื่อนของการพยากรณ์ด้วยวิธีการพยากรณ์เดี่ยว 8 วิธี ได้แก่ SMA, SES, DES, LES, TES HWS, REG และ B-J และวิธีการพยากรณ์ร่วมโดยการใช้น้ำหนักเฉลี่ยของ Newbold และ Granger 2 แบบ เพื่อพยากรณ์ 10 ช่วงเวลาล่วงหน้า โดยใช้ค่าวัดความถูกต้องของการพยากรณ์ MAPE และ MSE เป็นเกณฑ์ ฐานข้อมูลที'ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มี 2 ฐาน ฐานแรกคือข้อมูลอนุกรมเวลารายเดือน3 ชุดได้แก่ปริมาณการยืมหนังสือภาษาไทย ภาษาอังกฤษและวิทยานิพนธ์ 65 ช่วงเวลา ของศูนย์บรรณสารสนเทศทางการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นข้อมูลที่มีการ เปลี่ยนแปลงเนื่องจากฤดูกาล ฐานที่สองคือ ข้อมูลอนุกรมเวลารายปี 2 ชุด ได้แก่ จำนวนครูวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ 14 ปี ของกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จากกองแผนงาน กรมสามัญศึกษา เป็นข้อมูลที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากฤดูกาลเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบบันทึกข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาค่าสถิติพื้นฐาน การตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่แสดงแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากฤดูกาลโดยการพล๊อตกราฟและการวิเคราะห์การถดถอย การพยากรณ์ด้วยวิธีการพยากรณ์เดี่ยว การพยากรณ์ด้วยวิธีการพยากรณ์ร่วม การเปรียบเทียบการพยากรณ์ และผลการพยากรณ์ล่วงหน้า ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ข้อมูลปริมาณการยืมหนังสือภาษาไทยมีการเปลี่ยนแปลงที่แสดงแนวโน้มเส้นโค้งและฤดูกาล หนังสือภาษาอังกฤษ และวิทยานิพนธ์ มีการเปลี่ยนแปลงที่แสดงแนวโน้มเส้นตรงและฤดูกาล โดยมีการรวมตัวกันแบบบวก ส่วนจำนวนครูวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มีการเปลี่ยนแปลงที่แสดงแนวโน้มเส้นโค้ง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2. วิธีการพยากรณ์ที่เหมาะสมสำหรับข้อมูลอนุกรมเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากฤดูกาล ได้แก่ ปริมาณการยืมหนังสือภาษาไทย คือ วิธีการพยากรณ์ร่วม ซึ่งได้จากการรวมกันของวิธี HWS กับวิธี REG โดยให้น้ำหนักแบบที่ 2 หนังสือภาษาอังกฤษ คือ วิธี HWS และวิทยานิพนธ์ คือ วิธีการพยากรณ์ร่วม ซึ่งได้จากการรวมกันของวิธี HWS กับวิธี REG โดยให้นี้าหนักแบบที่ 1 และสำหรับ ข้อมูลอนุกรมเวลาที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากฤดูกาล ได้แก่ จำนวนครูวิทยาศาสตร์และจำนวนครูคณิตศาสตร์ คือวิธีการพยากรณ์ร่วม ซึ่งได้จากการนำวิธีการพยากรณ์ทุกวิธีมารวมกัน (SMA, SES, DES, LES, TES และ REG) โดยให้น้ำหนักแบบที่ 1 และแบบที่ 2 ตามลำดับ 3. ค่าพยากรณ์ในเดือนพฤศจิกายน 2542 ถึงเดือนสิงหาคม 2543 สำหรับปริมาณการยืมหนังสือภาษาไทย คือ 4,786, 4,554, 4,868, 5,091, 2,869, 2,811, 2,290, 4,695, 5,321 และ 5,751 เล่ม ตามลำดับ ปริมาณการยืมหนังสือภาษาอังกฤษ คือ 789, 718, 723, 710, 448, 433, 379, 750, 771 และ 821 เล่ม ตามลำดับ และปริมาณการยืมวิทยานิพนธ์ คือ 9,740, 8,057, 8,754, 8,833, 8,078, 6,605, 4,254, 7,372, 8,155 และ 9,091 เล่ม ตามลำดับ ค่าพยากรณ์ในปีการศึกษา 2542 ถึง ปีการศึกษา 2551 ของจำนวนครูวิทยาศาสตร์คือ 18,189, 18,714, 19,251, 19,801, 20,362, 20,937, 21,523, 22,122, 22,733 และ 23,356 คน ตามลำดับ และของจำนวนครูคณิตศาสตร์คือ 12,637, 13,239, 13,887, 14,581, 15,320, 16,104, 16,934, 17,809, 18,730 และ 19,696 คน ตามลำดับ