Abstract:
การวิจัยครังนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างและการพัฒนาโมดูลวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อมศึกษา ด้ายวิธีการเรียนแบบการนำตนเอง หลักสูตรพยาบาลศาสตร์ ระดับปริญญาตรีในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขการเปรียบเทียบผลการเรียนของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ในการเรียนวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อมศึกษา ที่เรียนด้วยบทเรียนโมดูล กับที่เรียนด้วยวิธีการสอนแบบเดิม คือ แบบบรรยายและการอภิปราย และการเปรียบเทียบลักษณะการเรียนรู้แบบการนำตนเองของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ในการเรียนวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อมศึกษาที่เรียนด้วยบทเรียนโมดูลกับการเรียนด้วยวิธีการสอนแบบเดิม คือ แบบบรรยายและการอภิปราย ผู้วิจัยได้พัฒนาหลักสูตรและสร้าง โมดูล วิชาอนามัยสิ่งแวดล้อมศึกษา สร้างแบบสอบวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อมศึกษา และสร้าง แบบวัดลักษณะการเรียนแบบการนำตนเอง โดยได้ให้ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินความ เที่ยงตรงและนำไปทดลองใช้ในการสอนจริงกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ราชบุรี ปีการศึกษา 2542 จำนวน 100 คน ทำการสุ่มโดยวิธีจับคู่เข้ากลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม โดยให้นักศึกษาทั้ง 2 กลุ่ม มีค่าเฉลี่ยคะแนนสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายไม่แตกต่างกัน กลุ่มทดลองเรียนโดยโมดูล ส่วนกลุ่มควบคุมเรียนโดยวิธีการสอนแบบเดิม คือ แบบบรรยายและการอภิปราย ระยะเวลาในการทดลอง 16 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยคะแนนดิบ สถิติทดสอบที (t-test) และสถิติวิเคราะห์ความแปรปรวน (ANOVA) ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้ 1. หลักสูตรและการสร้างโมดูลวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อมศึกษาด้วยวิธีการเรียน แบบการนำตนเองที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขน สามารถพัฒนาทักษะการเรียนแบบการนำตนเองของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ได้ และพบว่าโมดูลวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อมศึกษา มีประสิทธิภาพสูงในฐานะสื่อการสอนแบบใหม่ 2. กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยผลการเรียนวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อมศึกษาสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. กลุ่มทดลองมีผลคะแนนเฉลี่ยลักษณะการเรียนแนบการนำตนเองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผู้วิจัยได้เสนอแนะการวิจัยต่อเนื่องและการประยุกต์เกี่ยวกับการเรียนแบบการนำตนเองในรายวิชาอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณค่าซึ่งเสริมข้อกำหนดในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และควรนำกระบานการเรียนการสอนแบบอื่นที่แตกต่างจากการเรียนโดยโมดูลมาศึกษาควบคู่กับการเรียนแบบการนำตนเอง เพื่อเพิ่มการพัฒนาทักษะของผู้เรียนในกระบวนการเรียนการสอนที่มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้อย่างมีศักยภาพต่อไป