Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อทราบถึงแนวคิดทางการเมืองของเพลโตและนิทเช่ ในฐานะนักปรัชญาการเมืองเพลโตและนิทเช่ ได้กำหนดและอธิบายถึงคุณลักษณะและคุณสมบัติของระบอบการปกครองที่ดีและระบอบการปกครองที่ไม่ดีหรือรูปแบบการปกครองที่เสื่อม แนวคิดของเพลโตได้แบ่งจิตวิญญาณของมนุษย์ออกเป็นสามส่วน อันได้แก่เหตุผลหรือสติปัญญา ความกล้าหาญและความปรารถนา โดยนำจิตวิญญาณทั้งสามส่วนไปเชื่อมโยงกับชนชั้นต่างๆ ในสังคม ที่ประกอบขึ้นด้วยชนชั้นผู้ปกครอง ชนชั้นผู้พิทักษ์และชนชั้นผู้ทำการผลิตและใช้แรงงาน เพลโตพิจารณาถึงระบอบการปกครองที่ดีที่สุด นอกเหนือไปจากการมีราชาปราชญ์เป็นผู้ปกครอง การปกครองภายใต้ระบอบอภิชนาธิปไตยยังถูกยกย่องและชื่นชมว่าเป็นระบอบการปกครองที่ดีและมีความชอบธรรมอยู่ ระบอบพลาธิปไตยถูกจัดลำดับให้เป็นระบอบากรปกครองที่มีความเสื่อม ซึ่งจะมีพัฒนาการติดตามด้วยระบอบคณาธิปไตย ระบอบประชาธิปไตยและระบอบทรราชย์ตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบอบทรราชย์ถูกจัดให้เป็นระบอบการปกครองที่เสื่อมและเลวร้ายที่สุด นิทเช่มีแนวคิดว่าระบอบการปกครองที่มีดี คือการปกครองภายใต้ระบอบอภิชนาธิปไตยมีอภิชนเป็นผู้ปกครอง ส่วนระบอบการปกครองที่มีความเสื่อมคือระบอบประชาธิปไตย มีมวลชนเป็นผู้ปกครอง ระบอบอภิชนาธิปไตยสะท้อนให้เห็นถึงรูปลักษณ์ทางศีลธรรมในแบบนายทาส ขณะที่ระบอบประชาธิปไตยคือตัวแทนของศีลธรรมแบบทาส นอกจากนี้ระบอบการปกครองยังเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบของเจตจำนง (will) อันเป็นสิ่งที่นิทเช่ให้ความสำคัญในฐานะพื้นฐานของการมีชีวิต โดยเจตจำนงสู่อำนาจถือครองโดยผู้คนภายใต้ระบอบอภิชนาธิปไตยและเจตจำนงสู่สัจธรรม ถูกถือครองโดยผู้คนภายใต้ระบอบประชาธิปไตย