Abstract:
การวิจัยครั้งนี้เพื่อศึกษาสภาพและเปรียบเทียบปัญหาการดำเนินกิจกรรมพลศึกษาระดับอนุบาลระหว่างผู้บริหารกับครูผู้สอนในโรงเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กรุงเทพมหานครโดยใช้แบบสอบถามกับผู้บริหารและครูผู้สอนทั้งสิ้น 510 ฉบับ ได้รับกลับคืนมาจำนวน 358 ฉบับคิดเป็นร้อยละ 70.20 นำมาวิเคราะห์ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และหาค่าที (t—test) ผลการวิจัยพบว่า การดำเนินกิจกรรมพลศึกษาระดับอนุบาลมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มีทักษะการเคลื่อนไหวที่ดี และมีความสนุกสนาน ครูส่วนใหญ่ใช้คู่มือหลักสูตรฯ เป็นแนวทางการสอน มีการเรียนสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ครั้งละ 30 นาที มีการจัดกิจกรรมเสริมทางพลศึกษาเกือบทุกโรงเรียน กิจกรรมที่จัดให้กับนักเรียนคือ การตบมือ การนึ่ง การยืน การก้มตัว การวิ่ง การเดิน การโยนรับลูกบอล การทรงตัวการปีนป่าย การเล่นน้ำ การเล่นเครื่องเล่นสนาม การเล่นเกมเป็นกลุ่ม กิจกรรมที่นักเรียนชอบได้แก่ กิจกรรมที่มีดนตรีประกอบ การเล่นเกมประกอบนิทาน และการแข่งขัน วัสดุอุปกรณ์ส่วนใหญ่มีเพียงพอส่วนใหญ่ คือ ลูกบอลและห่วง สถานที่สอนส่วนใหญ่คือสถานที่กลางแจ้งเป็นสนามคอนกรีต ส่วนใหญ่มีการนิเทศการสอนแบบภายใน มีการประสานงานภายในโรงเรียน และโรงเรียนส่วนใหญ่มีงบประมาณของโรงเรียนในการดำเนินกิจกรรมทางพลศึกษาทุกด้านอย่างเพียงพอ ปัญหาการดำเนินกิจกรรมพลศึกษาระดับอนุบาลที่มีปีญหาอยู่1ในระดับมาก คือได้รับคู่มือการสอนกิจกรรมพลศึกษาระดับอนุบาลไม่ทั่วถึง คู่มือเอกสารหนังสือการสอนกิจกรรมพลศึกษาอนุบาลมีจำนวนน้อยขาดการส่งเสริมในการส่งไปศึกษาอบรมในกิจกรรมที่สอนหน่วยงานที่จัดอบรม/สัมมนาการสอนกิจกรรมพลศึกษาระดับอนุบาลมีน้อย ขาดการนิเทศการสอนจากศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารกับครูผู้สอนมีปัญหาที่แตกต่างกันคือเรื่อง ครูผู้สอนกิจกรรมพลศึกษาไม่เพียงพอ การปรับกิจกรรมให้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ได้ยาก มีความยากในการคิดกิจกรรมการเรียนการสอนใหม่ๆ อุปกรณ์การสอนกิจกรรมพลศึกษาไม่เพียงพอและไม่เหมาะสม และสถานที่ออกกำลังกายกิจกรรมในร่มมีไม่เพียงพอและไม่เหมาะสม ขาดแหล่งวิชา ที่จะค้นคว้าเพิ่มเติม และหน่วยงานที่จัดอบรม สัมมนาการสอนกิจกรรมพลศึกษาระดับอนุบาลมีน้อยนอกนั้นมีปัญหาไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05