Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ จากการเรียนซ่อมเสริมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างกลุ่มที่สอนซ่อมโดยครูกับกลุ่มที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิธีดำเนินการวิจัย ตัวอย่างประชากรเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ปีการศึกษา 2528 ผู้วิจัยดำเนินการ เลือกกลุ่มตัวอย่างประชากรโดยนำคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์เรื่องภาคตัดกรวย ของนักเรียน 3 ห้องเรียนมาหาค่าเปอร์เซ็นไทล์ เลือกนักเรียนที่มีเปอร์เซ็นไทล์ ระหว่าง 0-30 เป็นนักเรียนกลุ่มอ่อน แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม ๆ ละ 30 คน แล้วผู้วิจัยนำคะแนนสอบ มาทดสอบค่าเอฟ (F-test) และทดสอบค่าที (t-test) ปรากฎว่านักเรียนทั้งสองกลุ่มมีพื้นฐานความรู้คณิตศาสตร์เรื่อง ภาคตัดกรวยไม่แตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญ 0.05 ดังนั้นผู้วิจัยจึงเลือกนักเรียนทั้งสองกลุ่มเป็นกลุ่มตัวอย่างประชากร กลุ่มที่หนึ่งเป็นกลุ่มทดลองที่สอนซ่อมโดยคอมพิวเตอร์ช่วยสอน กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มควบคุมที่สอนซ่อมโดยครู เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยซึ่งสร้างขึ้นโดยผู้วิจัยมีดังนี้คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อการสอนซ่อมวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง "ภาคตัดกรวย" ซึ่งให้อาจารย์ที่ปรึกษาและ ผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่านตรวจแก้ไข คู่มือการใช้คอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนเพื่อการสอนซ่อมเสริม บันทึกการสอนเรื่อง "ภาคตัดกรวย" ซึ่งให้อาจารย์ที่ปรึกษาและผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ตรวจแก้ไข แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง "ภาคตัดกรวย" ซึ่งมีค่าความเที่ยง 0.80 ผู้วิจัยดำเนินการสอนกลุ่มทดลองซึ่งสอนซ่อมโดยคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ส่วนกลุ่มควบคุมสอนซ่อมโดยครู ใช้เวลากลุ่มละ 8 คาบ ๆ ละ 50 นาที เมื่อสอนทั้งสองกลุ่มเสร็จแล้วผู้วิจัยให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง "ภาคตัดกรวย" แล้ววิเคราะห์ข้อมูล โดยหาค่ามัชฌิมเลขคณิต ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที (t-test) ผลการวิจัย ผลสัมฤทธิ์การเรียนวิชาคณิตศาสตร์จากการเรียนซ่อมเสริมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างกลุ่มที่สอนซ่อมโดยครูกับกลุ่มที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนไม่แตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญ 0.05 ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้