Abstract:
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาสภาพการใช้หลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 กลุ่มการงานและพื้นฐานอาชีพ วิชางานเลือก ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม 2. เพื่อศึกษาบัญหาการใช้หลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 กลุ่มการงานและพื้นฐานอาชีพ วิชางานเลือก ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม วิธีดำเนินการวิจัย กลุ่มประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ โรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม จำนวน 103 โรง โดยมีผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้บริหารและครูผู้สอน กลุ่มการงานและพื้นฐานอาชีพ วิชางานเลือก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 ประจำปีการศึกษา 2529 ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา จังหวัดสมุทรสงคราม แยกเป็นผู้บริหาร 103 คน ครูผู้สอน 105 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล จากจำนวนแบบสอบถามที่ส่งไป 208 ฉบับ ได้รับคืน 192 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 92.30 ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ นอกจากนั้นยังได้มีการวิเคราะห์เอกสารประกอบหลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 กลุ่มการงานและพื้นฐานอาชีพ วิชางานเลือก ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัคสมุทรสงคราม โดยวิเคราะห์ถึงประเภทของเอกสาร องค์ประกอบของเอกสาร รายจะเอียดขององค์ประกอบแต่ละองค์ประกอบ เนื้อหาสาระ และผู้จัดทำ เป็นการวิเคราะห์ในด้านความสมบูรณ์และถูกต้อง โดยยึดทฤษฎีและหลักการของการพัฒนาหลักสูตร ผลการวิจัย 1. ด้านการแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน มีการจัดทำกำหนดการสอน และบันทึกการสอน โดยครูผู้สอนเป็นผู้จัดทำ ด้วยวิธีการศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ประกอบการจัดทำ และศึกษาแผนการสอนอย่างละเอียด นอกจากนี้ยังมีการจัดทำเอกสารประกอบหลักสูตร ได้แก่ แผนการสอน กำหนดการสอน บันทึกการสอน และใบงาน ผู้มีส่วนร่วมในการจัดทำเอกสารประกอบหลักสูตรดังกล่าว คือ ครูผู้สอน กลุ่มการงานและพื้นฐานอาชีพ ศึกษานิเทศก์สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม และศึกษานิเทศก์สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอ เอกสารประกอบหลักสูตรที่ครูผู้สอนส่วนใหญ่ใช้ คือ คู่มือการจัดการเรียนการสอนกลุ่มการงานและพื้นฐานอาชีพ แผนการสอน ในระดับเขตการศึกษา หนังสือความรู้สำหรับครู และกำหนดการสอน 2. ด้านการจัดปัจจัย และสภาพต่าง ๆ เพื่อการใช้หลักสูตร ปรากฎว่า ในการเตรียมครูผู้สอน มีการสำรวจความพร้อมของครูผู้สอนของโรงเรียนก่อนเปิดสอน งานเลือกแต่ละแขนงงาน โดยวิธีการสัมภาษณ์ครูผู้สอน เตรียมครูผู้สอนเพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรโดยวิธีการแจกเอกสารแนวการสอนให้ศึกษาพร้อมกับหลักสูตรและขอบข่ายวิชา ช่วยเหลือครูผู้สอนในการเพิ่มพูนทักษะความรู้ในวิชาที่สอน โดยวิธีสนับสนุนให้เข้าอบรมระยะสั้น เกี่ยวกับสื่อการเรียนการสอนนั้น เอกสารประกอบหลักสูตร ที่จัดให้ครูผู้สอน คือ คู่มือการจัดการเรียนการสอน หนังสือความรู้สำหรับครู แผนการสอนจากเขตการศึกษาหลักสูตรแม่บท และใบงาน โรงเรียนส่วนใหญ่มีการสำรวจเกี่ยวกับสื่อการเรียนการสอนโดยวิธีการให้ครูผู้สอนรายงานความต้องการมายังฝ่ายบริหาร ให้การสนับสนุนในด้านวัสดุต่าง ๆ และช่วยเหลือด้านงบประมาณ สำหรับสภาพของวัสดุ อุปกรณ์การสอน และเครื่องมือในการฝึกปฏิบัติ ที่มีอยู่ส่วนใหญ่มีสภาพทันสมัยใช้การได้ดี แต่มีจำนวนไม่เพียงพอ การแก้ปัญหาความไม่เพียงพอของวัสดุการสอน ส่วนใหญ่ใช้วิธีการนำวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ เกี่ยวกับสถานที่ที่ใช้สอนและห้องฝึกปฏิบัติ นั้นมีเพียงพอ และมีการดูแลพร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา โดยมีครูผู้สอนและนักเรียนเป็นผู้ดูแลรักษา เกณฑ์ในการจัดสภาพของห้องฝึกปฏิบัติวิชางานเลือกนั้น ถือเกณฑ์ความสะดวกต่อการใช้ของทั้งผู้สอนและผู้เรียน และความสอดคล้องกับลักษณะกระบวนการเรียนการสอนของกลุ่มประสบการณ์ 3. ด้านการจัดการเรียนการสอน เกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนการสอน ครูผู้สอนส่วนใหญ่มีการเตรียมการสอนทุกครั้ง มีการชี้แจงแผนการเรียน และแผนการฝึกปฏิบัติงาน ให้นักเรียนทราบตลอดเปิดภากเรียน มีการชี้แจงจุดประสงค์ในการเรียนตามแผนการสอนแต่ละครั้ง ให้นักเรียนทราบก่อนการสอนทุกครั้ง และมีการชี้แจงข้อบกพร่อง ในการฝึกปฏิบัติของนักเรียน อย่างไรก็ตามยังไม่มีการปฏิบัติเกี่ยวกับการพานักเรียนไปดูงานหรือศึกษานอกสถานที่ เนื่องจากโรงเรียนตั้งอยู่ในท้องถิ่นที่กันดาร การคมนาคมไม่สะดวก และโรงเรียนขาดงบประมาณ ครูผู้สอนส่วนใหญ่จัดให้มีกิจกรรมเสริมการเรียนการสอน โดยใช้การจัดป้ายนิเทศ ผู้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมเสริมการเรียนการสอน คือ ครูผู้สอน และนักเรียนที่เรียนร่วมกันทำ เกี่ยวกับเทคนิคและวิธีสอน ครูผู้สอนส่วนใหญ่มีความชำนาญในการใช้และสาธิตวิธีใช้อุปกรณ์ และเครื่องมือต่าง ๆ ส่วนวิธีสอนที่ถนัดและใช้สอน ได้แก่ วิธีการเรียนด้วยการปฏิบัติและวิธีสาธิต สำหรับเกณฑ์ที่ใช้ในการเลือกวิธีสอน ครูผู้สอนส่วนใหญ่ยึดเกณฑ์ความตรงตามจุดประสงค์ และความพร้อมของผู้เรียน ส่วนเอกสารประกอบหลักสูตรที่ใช้ในการสอนแต่ละครั้งส่วนใหญ่ใช้แผนการสอน และคู่มือการจัดการเรียนการสอน เกี่ยวกับการวัดผลและประเมินผลการเรียน ครูผู้สอนส่วนใหญ่ประเมินผลงานในการฝึกปฏิบัติของนักเรียนทุกครั้ง โดยประเมินผลเกี่ยวกับวิธีการ กระบวนการและขั้นตอนการปฏิบัติงาน เจตคติ และนิสัยการทำงาน ส่วนวิธีการที่ใช้ในการวัดผลการเรียนการสอน ส่วนใหญ่ใช้การสังเกตการปฏิบัติงาน และฝึกปฏิบัติแล้วเก็บคะแนน ครูผู้สอนส่วนใหญ่มีการชี้แจงหลักเกณฑ์และกำหนดวิธีการวัดผลให้นักเรียนทราบก่อนเริ่มการสอนทุกแขนงงานในวิชางานเลือก และชี้แจงข้อบกพร่องให้นักเรียนทราบหลังจากการสอนทุกครั้ง สำหรับเอกสารประกอบหลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 กลุ่มการงานและพื้นฐานอาชีพ วิชางานเลือก ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม ส่วนใหญ่มีความสมบูรณ์ และถูกต้องตามทฤษฎี และหลักการของการพัฒนาหลักสูตร ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้หลักสูตรมีดังนี้ 1. ด้านการแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน ปัญหาส่วนใหญ่ คือ งบประมาณในการดำเนินงานไม่เพียงพอ ขาดครูที่มีความรู้ความเข้าใจในการจัดทำ ขาดแหล่งวิทยาการในท้องถิ่น และช่วงเวลาในการดำเนินการไม่เพียงพอ 2. ด้านการจัดปัจจัยและสภาพต่าง ๆ เพื่อการใช้หลักสูตร ปัญหาส่วนใหญ่ ได้แก่ พื้นฐานความรู้ความสามารถของครูต่างกัน ขาดครูผู้ดำเนินงานที่มีความรู้ความสามารถ งบประมาณในการดำเนินงานไม่เพียงพอ การไม่ได้รับการแนะนำชี้แจงการใช้หลักสูตร / ไม่ได้รับการอบรม และไม่ได้รับข่าวสาร เกี่ยวกับการเผยแพร่ความรู้หรือการจัดอบรม วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือในการฝึกปฏิบัติไม่เพียงพอ 3. ด้านการจัดการเรียนการสอน ปัญหาส่วนใหญ่ เกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนการสอน คือ ความรู้พื้นฐานของนักเรียนต่างกัน งบประมาณ และช่วงเวลาในการจัดไม่เพียงพอ การขาดแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคและวิธีสอน เครื่องมือในการวัดและประเมินผลการเรียนไม่เพียงพอ และเกณฑ์ในการวัดและประเมินผลการเรียนไม่ชัดเจน