Abstract:
ศึกษาและเปรียบเทียบอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั้งก่อนและหลังการเปิดเสรีโทรคมนาคม โดยศึกษาจากประเทศญี่ป่น เกาหลีใต้ และฮ่องกง เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศไทยในบริการโทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์เซลลูล่าร์และโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ จากการศึกษาพบว่า ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มีรูปแบบการเปิดให้แข่งขันเหมือนกัน คือ เริ่มด้วยโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ โทรศัพท์เซลลูล่าร์และโทรศัพท์พื้นฐาน ตามลำดับ ขณะที่ฮ่องกงเริ่มด้วยโทรศัพท์เซลลูล่าร์ โทรศัพท์พื้นฐาน และโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ โดยที่การเปิดให้มีการแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคมของประเทศ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฮ่องกง ก่อให้เกิดผลดีต่อทั้งผู้บริโภคและประเทศ คือได้รับบริการที่มีคุณภาพดีขึ้นและมีระดับราคาถูกลง ทำให้ประชาชนที่สามารถใช้บริการ โทรศัพท์ได้ มีปริมาณเพิ่มขึ้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้ผูกขาดรายเดิมที่เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เซลลูล่าร์และโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศของฮ่องกงเท่านั้นที่ถูกกระทบทำให้รายได้ลดลง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มขึ้นของผู้ให้บริการเป็นภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งมีการรวม ตัวกันและความร่วมมือจากพันธมิตรต่างชาติ ไทยมีรูปแบบการเปิดให้แข่งขัน เหมือนฮ่องกง แต่ยังคงผูกขาดโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศอยู่ โดยมีแนวโน้มต่อผู้บริโภคคือการปรับลดราคาลง และด้านคุณภาพ ผู้ประกอบการจะเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีโดยมีการลอกเลียนหรือการซื้อมาใช้จากประเทศที่พัฒนาแล้ว ส่วนแนวโน้มของผู้ผูกขาดรายเดิมคือการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยแยกหน้าที่การบริการและการกำกับดูแลออกจากกัน เป็นบริษัทผู้ให้บริการและองค์กรกำกับดูแลอิสระ รวมทั้งผู้ประกอบการจะหาพันธมิตรจากต่างชาติและ รวมตัวกันในธุรกิจบริการโทรคมนาคม