Abstract:
ภาวะธัยรอยด์เป็นพิษที่เกิดจากต่อมธัยรอยด์สร้างฮอร์โมนเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ (Hyperthyroidism) เป็นภาวะที่พบได้บ่อย การรักษาทำได้3 วิธีคือ การกินยาด้านธัยรอยด์กลุ่มไธโอนาไมด์ ได้แก่ propylthiouracil (PTU)LLละ methimazole (MMI), การผ่าตัดต่อมธัยรอยด์, การกินนํ้าแร่รังสีไอโอดีน (radioactive iodine) โดยการรักษามักใช้ยาด้านธัยรอยด์เป็นส่วนใหญ่ และใช้เป็นการรักษาหลักโดยเฉพาะในกรณีที่เป็นภาวะธัยรอยด์เป็นพิษแบบรุนแรง คือ thyroid storm เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถควบคุมอาการได้รวดเร็วเหมาะสมกว่าวิธีอื่นๆ ในปัจจุบันยาด้านธัยรอยด์มีแต่ในรูปแบบของยาเม็ดเท่านั้น แต่ถ้าผู้ป่วยพวกนี้ไม่สามารถรับการบริหารยาทางปากหรือทางสายยางจมูกเป็นระยะเวลานานๆเนื่องจากอยู่ในภาวะหลังผ่าตัด, มีระดับความรู้สึกตัวตํ่า หรือใน ช่วงที่มี thyroid storm ในการรักษาจึงต้องดัดแปลงการบริหารยาด้านธัยรอยด์ที่มีอยู่มาให้ในรูปแบบของการสวนเก็บทางทวาร ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่าได้ผลในการรักษาผู้ป่วยหลายรายในรายงานของต่างประเทศ การวิจัยในครั้งนี้เป็นการศึกษาเปรียบเทียบหาระดับยา methimazole ในพลาสมาโดยทำการให้ยา methimazole ด้วยการสวนเก็บทางทวารและการกินในขนาด 30 มิลลิกรัมหลังจากที่งดอาหารและน้ำก่อนรับยาเว้นห่างในการให้ยาในแต่ละวิธีนานนาน 2 สัปดาห์ เจาะเลือดที่เวลาต่างๆคือ 0, 30, 60, 90, 120, 180, 240, 300 และ 360 นาที นำไปวิเคราะห์หาปริมาณ ยาในพลาสมาด้วยวิธี HPLC ผู้เข้าร่วม การศึกษานี้เป็นอาสาสมัครหญิง 6 คน ชาย 1 คน มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงจากการซักประวัติ, ตรวจร่างกาย และการตรวจทางห้องปฏิบัติการ มีการทำงานของต่อมธัยรอยด์เป็น ปกติ อาสาสมัครทุกคนได้รับ การบริหารยาครบ ทั้ง 2 รูปแบบและไม่มีการไหลย้อนออกของยา ผลการศึกษาพบว่า ระดับปริมาณยา methimazole ในพลาสมาที่ได้จากการบริหารยาทั้ง 2 รูปแบบไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ (P > 0.05) ค่าความแปรปรวนของการดูดซึมยา methimazole ระหว่างการให้ยาทาง ปากและการสวนเก็บ ทางทวารมีความแตกต่างอยู่ในช่วงสูงสุดเท่ากับ 3.432 ไมโครกรัม ต่อมิลลิลิตร (พิสัย 0.0008 - 3.432) ดังนั้น เมื่อผู้ป่วยมีภาวะธัยรอยด์เป็นพิษ หรือ thyroid storm Iแล้วไม่สามารถรับการบริหารยาทางปาก ซึ่งเป็นรูปแบบปกติได้ การให้การรักษาด้วย methimazole ด้วยการสวนเก็บทางทวารจึงเป็นทางเลือกอีกวิธีหนึ่งที่สามารถให้ผลดีในการรักษากับผู้ป่วยที่อยู่ในสภาวะพิเศษนี้ และสามารถให้ยาในขนาดที่เท่ากับการบริหารยาทางปาก โดยพิจารณาจากระดับยา methimazole ในพลาสมา เมื่อเปรียบเทียบการให้ยาในทั้ง 2 รูปแบบแก่อาสาสมัครที่มีสุขภาพปกติแข็งแรง