dc.contributor.advisor |
Mana Vongpivat |
|
dc.contributor.author |
Sutat Chansangpetch |
|
dc.contributor.other |
Chulalongkorn University. Graduate School |
|
dc.date.accessioned |
2021-03-05T07:03:10Z |
|
dc.date.available |
2021-03-05T07:03:10Z |
|
dc.date.issued |
1976 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/72644 |
|
dc.description |
Thesis (M.Eng.) -- Chulalongkorn University, 1976 |
en_US |
dc.description.abstract |
The purpose of this investigation is to study the suitability of bamboo as reinforcement for conical rice bins, and to compare the theoretical analysed structure of conical rice bins as composite and isotropic materials to the field test measurement of deflections and strains of a conical rice bin. The mechanical properties of bamboo and mortar were determined by tests, the result of which will be used in the design. Bamboo, one of the most common materials available in many parts of Thailand, may be proved to be a good substitute for steel because of its high tensile strength and is also the low-cost construction material. In the investigation a variety of bamboo scientifically called Thrsostachys Oliveri Gamble known locally as Pai Ruak in Thailand was used. The test results also showed that the average ultimated tensile strength, the average modulus of elasticity and the average bond stress between bamboo and mortar are 1937 kg/sq.cm, 2.64 x 10⁵ kg/sq.cm and 8.35 kg/sq.cm respectively. The mortar used for all the test samples had cement-sand ratio of 1 : 2 by weight with a water cement ratio of 0.45. The average ultimate compressive strength and the average modulus of elasticity of mortar were determined by cylindrical control specimens (15 cm. dia. X 30 cm.) as 408 kg/sq.cm and 3.0 x 10 kg/sq.cm respectively and from cube control specimens (5.0 cm x 5.0 cm x 5.0 cm) as 325 kg/sq.cm and 3.25 x 10⁵ kg/sq.cm respectively. A prototype rice bin was constructed at the site at Chulalongkorn University. Measurements were carried out, using dial gages for deflections and electrical resistance strain gauges for strains at various positions shown in Figs. (22), (23). Test results showed that the bin occurred higher deflactions than the deflactions calculated from theoretical analysis about 50 percent. The bin did not crack but sparse permeation in the bin occurred. This is because there is a loss of moisture content of mortar during construction, and because the mortar had not been mixed with sealing compound and also because the water pressure was 2.25 m. height which was too high. The compressive strength of mortar occurred lower than the compressive strength calculated from theoratical analysis about 19 percent but the tensile strength of bamboocement was equal to those calculated. |
|
dc.description.abstractalternative |
การศึกษานี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาถึงความเหมาะสมของการเอาไม้ไผ่มาทำเป็นโครงรูปกรวยแล้วฉาบด้วยปูนทรายโดยการวิเคราะห์โครงสร้างของยุ้งข้าวรูปกรวยเป็นวัสดุผสม (composite materials) และวัสดุเหมือนทุกทิศทาง (isotropic materials) แล้วเปรียบเทียบระยะโก่งตามแนวราบและความเค้นกับการทดลองในสนามพร้อมทั้งหาคุณสมบัติทางกลของไม้ไผ่และปูนทรายเพื่อใช้ในการออกแบบ ไม้ไผ่เป็นวัสดุที่มีมากมายในประเทศราคาถูกและหาได้ง่ายในทุกภาคของประเทศไทยอาจจะพิสูจน์ได้ว่าใช้แทนเหล็กได้ดีเพราะมีแรงดึงสูงเนื่องจากไม้ไผ่มีอยู่มากมายหลายชนิดมีอยู่ชนิดหนึ่งที่ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า ไธรโซสแท็คชี้ อ็อลลีเวอร์ แกมเบิล (Thyrsostachys Oliveri Gamble) ในประเทศไทยที่เราเรียกกันตามท้องถิ่นว่าไม่ไผ่ลวกซึ่งเป็นชนิดที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ผลการทดลองแสดงด้วยว่าค่าเฉลี่ยของแรงดึงประลัย โมดูลัสแห่งความยีดหยุ่นและค่าเฉลี่ยของแรงยึดหน่วงระหว่างไม้ไผ่กับปูนทรายเป็น 1937 ก.ก. ต่อตาราง ซ.ม., 2.64x10⁵ ก.ก. ต่อตาราง ซ.ม. และ 8.35 ก.ก. ต่อตาราง ซ.ม. ตามลำดับ ปูนทรายซึ่งใช้ในการทดลองมีอัตราส่วนของปูนซีเมนต์ต่อทรายเท่ากับ 1:2 โดยน้ำหนักกับอัตราส่วนของน้ำต่อปูนซีเมนต์เท่ากับ 0.45 ผลการทดลองได้ค่าเฉลี่ยแรงดึงประลัยและโมดูลัสแห่งความยึดหยุ่นของปูนทรายตัวอย่างรูปทรงกระบอกมาตราฐานที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 ซ.ม. สูง 30 ซ.ม. มีค่าเป็น 408 ก.ก. ต่อ(ซ.ม.)² ตามลำดับและหาจากตัวอย่างรูปทรงลูกบาศก์ มาตราฐานขนาด 5ซ.ม. x 5 ซ.ม. x 5 ซ.ม. มีค่าเป็น 325 ก.ก. ต่อ (ซ.ม.)² และ 3.25 x 10⁵ ก.ก. ต่อ (ซ.ม.)² ตามลำดับ ยุ้งข้าวขนาดเท่าของจริงซึ่งใช้ในการทดลองได้สร้างในบริเวณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยใช้ Mial Gages สำหรับวัดระยะโก่งตามแนวราบและ Electrical Resistance Strain Sauges สำหรับวัดความเค้นที่ระยะต่างๆ ตามที่แสดงในรูป (22) และ(23) ผลการทดลองแสดงว่ายุ้งข้าวมีระยะโก่งตามแนวราบที่วัดได้สูงกว่าค่าประมาณการณ์จากการวิเคราะห์ 50 เปอร์เซนต์แต่ไม่มีรอยแตกมีแต่รอบซึมประปรายตามผนังของยุ้งข้าว เนื่องจากปูนทรายไม่ได้ผสมน้ำยากันซึมอีกทั้งแรงดันของน้ำที่สูง 2.25 ม. มีค่าสูงมาก แรงอังของปูน-ทรายที่หาได้จากการทดลองมีค่าต่ำกว่าค่าที่ได้จากการวิเคราะห์ 19 เปอร์เซนต์ส่วนแรงดึงของไม้ไผ่ผสมปูนทรายที่หาได้จากการทดลองมีค่าใกล้เคียงกับค่าที่ได้จากการวิเคราะห์ |
|
dc.language.iso |
en |
en_US |
dc.publisher |
Chulalongkorn University |
en_US |
dc.relation.uri |
http://doi.org/10.14457/CU.the.1976.6 |
|
dc.rights |
Chulalongkorn University |
en_US |
dc.subject |
Bamboo construction |
|
dc.title |
A study of bamboo as reinforcement for rice bins |
en_US |
dc.title.alternative |
ยุ้งข้าวทำด้วยปูนทรายเสริมไม้ไผ่ |
en_US |
dc.type |
Thesis |
en_US |
dc.degree.name |
Master of Engineering |
en_US |
dc.degree.level |
Master's Degree |
en_US |
dc.degree.discipline |
Civil Engineering |
en_US |
dc.degree.grantor |
Chulalongkorn University |
en_US |
dc.email.advisor |
No information provided |
|
dc.identifier.DOI |
10.14457/CU.the.1976.6 |
|